"กรมบัญชีกลาง"อนุมัติอัตราค่าตอบแทนให้"ปภ."และ"จังหวัด"เบิกจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้ปฏิบัติงานทุกประเภทที่ได้รับมอบหมาย หรือได้รับคำสั่งให้ออกปฏิบัติงานป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณี COVID-19 วันละ 120-240 บาท เมื่อวันที่ 10 พ.ค.63 นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่กรมบัญชีกลางได้อนุมัติให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และจังหวัด ยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 ให้สามารถใช้จ่ายเงินทดรองราชการในเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรณี COVID-19 ที่ได้รับการขยายวงเงินจากกรมบัญชีกลาง เป็นค่าตอบแทนให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ทุกประเภทที่ได้รับมอบหมายหรือได้รับคำสั่งให้ออกปฏิบัติงานป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติ ค่าใช้จ่ายในการดูแลด้านการดำรงชีพของผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติดังกล่าวได้เป็นกรณีพิเศษ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.63 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยขอทำความตกลงนั้น โดยความคืบหน้าล่าสุด กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้อนุมัติอัตราค่าตอบแทนเพื่อให้ปภ.และจังหวัดเบิกจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้ปฏิบัติงานทุกประเภทที่ได้รับมอบหมายหรือได้รับคำสั่งให้ออกปฏิบัติงานป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติ กรณี COVID-19 ได้ตามอัตราที่กระทรวงมหาดไทยมีหนังสือขอทำความตกลง เมื่อวันที่ 7 พ.ค.63 โดยเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานในลักษณะเหมาจ่ายเทียบเคียงกับอัตราที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ.2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 1.กรณีผู้ปฏิบัติงานเกิน 6 ชั่วโมงขึ้นไป แต่ไม่เกิน 12 ชั่วโมง ให้ได้รับค่าใช้จ่ายในอัตราวันละ 120 บาท 2.กรณีผู้ปฏิบัติงานเกิน 12 ชั่วโมงขึ้นไปให้ได้รับค่าใช้จ่ายในอัตราวันละ 240 บาท สำหรับการอนุมัติอัตราค่าตอบแทนดังกล่าว เพื่อให้การใช้จ่ายเงินทดรองราชการในเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเป็นค่าตอบแทนผู้ปฏิบัติงานทุกประเภทที่ได้รับมอบหมายหรือได้รับคำสั่งให้ออกปฏิบัติงานป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณี COVID-19 เป็นไปในแนวทางเดียวกัน อีกทั้งเป็นการสนับสนุนการปฏิบัติงานของ ปภ.และจังหวัด ป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในสถานการณ์ COVID-19 ที่กำลังเกิดขึ้น