"ศบค."แถลงไทยพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19รายใหม่เพิ่ม 5 ราย ไม่มีเสียชีวิต แจงผลแล็บ"ภูเก็ต"เจออีก 4 รายจริง รายงานยอดพรุ่งนี้ ย้ำทำ 3 อย่าง"ใส่หน้ากาก-ล้างมือ-เว้นระยะห่าง" ช่วยลดตัวเลขการติดเชื้อ ด้าน "มท." หวั่นโควิดระบาดซ้ำ สั่งทั่วประเทศเข้มระบบป้องโรค-กักกันตัวปลายทาง "ทรัมป์" โวไม่หวั่น "โควิด-19" บุก "ทำเนียบขาว" หลังพบเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ 2 รายซ้อนในรอบสัปดาห์ ด้าน"แดนหมี"สุดระทึก เพลิงไหม้โรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยโควิดถูกย่างสดดับสยอง 1 ศพ ขณะที่ยอดป่วย"ไวรัสมรณะ"ทะลุ 4 ล้านราย ยอดตายยังพุ่งต่อเนื่อง ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 10 พ.ค.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงว่า ยอดผู้ติดเชื้อสะสมขณะนี้ 3,009 ราย ใน 68 จังหวัด โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดเสียชีวิต 56 ราย หายป่วยกลับบ้านได้เพิ่มอีก 7 ราย รวมยอดหายป่วยสะสม 2,794 ราย และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 159 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย ได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยจากการสัมผัสใกล้ชิด กับผู้ป่วยยืนยัน รายก่อนหน้านี้ 2 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 44 ปี มีภูมิลำเนา อยู่ที่ กทม.และชายไทย อายุ 80 ปี ภูมิลำเนา อยู่ที่ จ.นราธิวาส กลุ่มเดินทางกลับจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine 3 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 41 ปี กลับมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 2 พ.ค. เป็นชายอายุ 26 ปี และอายุ 27 ปี เป็นนักศึกษากลับจากประเทศปากีสถานวันที่ 7 พ.ค. นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีข่าวออกมาทางโซเชียลมีเดียว่า ที่ภูเก็ตมีผลแล็บออกมาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 พ.ค. พบอีก 4 รายเพิ่มเติมนั้น ตรงนี้จะแยกจาก 5 รายวันนี้ เนื่องจากยอด 5 ราย เป็นการตัดยอดเมื่อวาน ดังนั้น 4 รายนี้จะยังไม่รวม แต่จะเป็นยอดการรายงานวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ จ.ภูเก็ต เป็นจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดของโรคนี้อยู่แล้ว ซึ่งคนในภูเก็ตหรือออกจากภูเก็ตเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่มีการผ่อนปรน ที่มีคนหลักหมื่นออกจากภูเก็ตไปยังจังหวัดต่างๆ และเมื่อวานมีรายงานติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1 ราย ที่เดินทางออกจากภูเก็ต ขอให้คนเดินทางทั้งหลายดูแลตัวเอง ถ้ามีภาวะเสี่ยง อาการอย่างใดอย่างหนึ่ง แค่คัดจมูก รับรู้กลิ่นไม่ดี ประวัติไข้ เดินทางจากภูเก็ตขอรับการตรวจได้เลย "อย่างไรก็ตามขอย้ำต้องทำ 3 อย่างเหมือนเดิมคือ ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร ถ้าทำได้ทุกวันจะทำให้ตัวเลขสถิติการติดเชื้อลดน้อยลง" ด้าน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าฯกทม. ได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และผู้ว่าฯกทม. ลงวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสในวันที่ 9พ.ค.63 พบผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นผู้เดินทางจากจังหวัดภูเก็ต ที่เดินทางกลับจังหวัดภูมิลำเนา ฉะนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฯ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย(ศบค.มท) พิจารณาแล้ว ให้ทุกจังหวัดยังคงดำรงความสำคัญในการปฏิบัติในเรื่องของการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโดยการกักกันตัวเพื่อสังเกตอาการ ณ จังหวัดภูมิลำเนาหรือจังหวัดปลายทางในการเดินทางตามแนวปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุข สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แสดงทรรศนะต่อกรณีการพบเจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของประเทศ ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ถึง 2 คน ในรอบสัปดาห์ โดยระบุว่า ตนไม่ห่วงเรื่องไวรัส แพร่ระบาดในทำเนียบขาว โดยแนวคิดเรื่องการตรวจหาเชื้อไวรัสเป็นเรื่องดี แต่ไม่จำเป็นว่า การตรวจหาเชื้อจะต้องยอดเยี่ยมทั้งหมดคือ ตรวจพบทุกครั้งทั้งหมด ขณะเดียวกัน ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ภายในโรงพยาบาลหมายเลข 50 (No.50 Hospital) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสำหรับรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะ ในกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย เมื่อช่วงดึกของวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งอพยพผู้ป่วยกว่า 300 คนอย่างชุลมุน ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าได้ลุกลามไปแล้ว 212 ประเทศ ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจำนวน 4,101,889 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 280,443 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวนสะสม 1,441,815 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 1,347,309 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 80,037 ราย