วันที่ 10 พ.ค.63 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์ พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ต.กิตติภพ ทองเพชร พ.ต.ต.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.3 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุมตัวน.ส.สุพิชญา (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ จ.207/2563 ลง 17 เม.ย.63 ในข้อหาว่า ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ได้ที่บริเวณคอนโดในซอยสุขุมวิท 48 ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กรุงเทพฯ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 22 มี.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ได้จับกุมตัวน.ส.สุพิชญา ผู้ต้องหา ตามหมาย จับศาลอาญาพระโขนง ที่ 199/2563 ลง 19 มี.ค.63 นำส่งพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข เพื่อดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหาได้ขอประกันตัวในชั้นสอบสวนซึ่งในครั้งนั้นผู้ต้องหา ได้ตั้งกลุ่มแชร์ชื่อ“ซ้อบี”ชักชวนผู้เสียหายให้มาร่วมลงทุนอ้างว่า จะได้รับผลกำไรตอบแทนสูง จะพาไปทำงานต่างประเทศ โดยลงทางสื่อออนไลน์ ให้มาร่วมลงทุนส่งออกหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอลไปขายที่ต่างประเทศ ช่วงโรคระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายหลังจากที่ผู้ต้องหาประกันตัวออกมานั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ สืบสวนทราบว่า น.ส.สุพิชญา ยังคงมีพฤติการณ์หลอกลวงบุคคลอื่น โดยใช้ช่องทางออนไลน์ต่างๆ ให้เข้ามาลงทุนเล่นแชร์ เล่นพนันหวยออนไลน์พนันบอลออนไลน์ โดยในครั้งนี้ผู้ต้องหาได้ให้บุคคลอื่นมาทำธุรกรรมต่างๆ แทนตนเอง ซึ่งพบว่า มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนจำนวนหลายราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนทราบว่า น.ส.สุพิชญา ผู้ต้องหารายนี้ ได้มาเช่าห้องอยู่ที่คอนโดในซอยสุขุมวิท 48 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เพื่อเป็นสถานที่พักอาศัยและดำเนินกิจการในการรับแทงหวยออนไลน์ พนันบอลออนไลน์, การเล่นแชร์ต่างๆ โดย น.ส.สุพิชญาฯ จะไม่ออกจากห้องพักแต่จะให้บุคคลอื่นซื้อเครื่องดื่มและอาหารเข้ามาส่งเป็นประจำ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ขออนุมัติหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค 118-119/2563 ลง 8 พ.ค.63 เข้าตรวจค้นห้องพัก น.ส.สุพิชญา ซึ่งเป็นผู้ครอบครองห้องพัก ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตรวจค้นห้องพัก โดยผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้แสดงหมายจับผู้ต้องหาให้ดูจนเข้าใจดีแล้ว จึงทำการจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ดำเนินคดี สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพข้อกล่าวหา จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหามีหมายจับของศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ จ.90/2563 ลง 30 มี.ค.63 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” และหมายจับของศาลแขวงนครปฐม ที่ จ.74/2563 ลง 2 เม.ย.63 ข้อหา “ฉ้อโกง” รวม 2 หมาย