คมนาคมจัดระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ภายในประเทศ หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำกัดคนขึ้นรถไฟฟ้าเพียง 250 คน แต่เพิ่มความถี่ช่วงเร่งด่วน วอนเข้าใจต่อคิวยาว เหตุสถานการณ์ไม่ปกติ พร้อมแล้ว 5 สายการบินรองรับผู้โดยสารในประเทศ หลังเปิดสนามบิน 18 แห่ง นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วงที่มีการระบาดได้ระงับการเดินทางทางรถโดยสารประจำทางระหว่างจังหวัดจำนวน 203 เส้นทางใน 20 จังหวัด และระงับการเดินรถไฟระหว่างจังหวัดให้เหลือเพียง 43 ขบวนตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.เป็นต้นมา เหลือเพียงการเดินทางระยะสั้นไม่เกิน 300 กิโลเมตรเท่านั้น ภายหลังการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ พบว่า มีประชาชนเดินทางมากขึ้นโดยเฉพาะในกทม.และปริมณฑล มีการใช้รถไฟฟ้าหนาแน่น โดยขณะนี้ได้สั่งการให้จัดเตรียมแผนปฏิบัติการให้ผู้โดยสารมีความเสี่ยงน้อยที่สุด พบว่ามีการจัดการดีขึ้นมาก เนื่องจากประชาชนให้ความร่วมมือ แต่ยังมีข้อร้องเรียนเรื่องระยะเวลาในการรอ โดยขอชี้แจงว่า ขอประชาชนเข้าใจ เนื่องจากมีมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้รถไฟฟ้าหนึ่งขบวนสามารถบรรจุคนได้เพียง 250 คน เพื่อลดความเสี่ยง พร้อมทั้งเพิ่มความถี่ในช่วงเวลาเร่งด่วนแล้ว แต่ไม่สามารถเพิ่มความถี่ได้มากกว่า 3 นาทีเพราะต้องเปลี่ยนไปตามมาตรฐาน ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้ สำหรับการเดินทางโดยรถเมล์และเรือพบปัญหาความแออัด แต่อยากให้ปฏิบัติตามแนวทางมาตรการของกระทรวงคมนาคมเพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือบริษัทเอกชนให้ work from home หรือเหลื่อมเวลาการทำงาน เพื่อลดปริมาณและลดความหนาแน่นการเดินทางให้มากขึ้น ส่วนการเดินทางทางอากาศ ขณะนี้มี 5 สายการบินกลับมาให้บริการ และเปิดสนามบิน 18 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเดินทางเฉพาะผู้เดินทางในประเทศเท่านั้น โดยมีข้อกำหนดระยะเวลา 07.00-19.00 น. เพื่อป้องกันไม่ให้ระยะเวลาการเดินทางเกินช่วงเวลาเคอร์ฟิว พร้อมแนะนำประชาชนที่จะเดินทางไปต่างจังหวัด ให้ศึกษามาตรการต่างๆของแต่ละจังหวัดด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเมื่อเดินทางถึงปลายทาง และประชาชนที่มีไข้ ขอให้งดเดินทาง