สาวนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้เสียหายที่ถูกนายแพทย์ชื่อดัง หลอกเอาทรัพย์สิน ซึ่งเป็นโฉนดที่ดิน และบ้านที่อยู่อาศัย มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท ไปทำธุรกิจโรงพยาบาล โดนหลอกมาเป็นเวลานานกว่า 12 ปี ร้องขอความเป็นธรรม ที่กระทรวงยุติธรรม
เมื่อวันที่ 7 พ.ค.63 น.ส.กรรณทิพย์ ถึงท่าดี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้นำหลักฐานการค้ำประกันเงินกู้ให้กับนายแพทย์ชื่อดังคนหนึ่ง เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมจากศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข กระทรวงยุติธรรม โดยนำซองเอกสารเปิดผนึกส่งถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
น.ส.กรรทิพย์ กล่าวว่า ตนได้รับความเดือดร้อนหลังจากแพทย์คนดังกล่าว ผิดการผ่อนชำระหนี้ ไม่เป็นไปตามคำสั่งของ บริษัทสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์จำกัด มหาชน หรือ บสก.ซึ่งการผ่อนชำระหนี้เป็นไปตามคำสั่งของศาล ซึ่งเหตุการณ์นี้ย้อนไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ครอบครัวของตนเองและแพทย์คนดังกล่าว นั้นรู้จักและสนิทสนมกันเป็นอย่างดี จึงตัดสินใจได้ใช้สินทรัพย์ 6 รายการ ประกอบด้วยบ้านและที่ดินเป็นร้อยไร่ มูลค่าสินทรัพย์ประมาณ 200 ล้านบาท คิดเป็น 3 เท่า ของวงเงินกู้ที่แพทย์คนดังกล่าว ขอกู้ไปในวงเงิน 70 ล้านบาท เพื่อทำศูนย์สูตินารีเวชในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านเพชรบุรีตัดใหม่
แต่ปรากฏว่ามาระยะหลังแพทย์คนดังกล่าวผิดนัดผ่อนชำระเงินกู้ ทำให้เกิดปัญหากับทรัพย์สินที่ใช้ค้ำประกัน ตนจึงฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งศาลได้มีคำสั่งเป็นที่สิ้นสุดแล้ว โดยให้ผู้กู้กับผู้ค้ำประกันแบ่งชำระหนี้คนละครึ่ง ซึ่งล่าสุดเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือจาก บสก.แจ้งว่าแพทย์คนดังกล่าวผิดนัดชำระหนี้ 1 งวด จำนวน 450,000 บาท อีกทั้งต่อมาแพทย์ได้ยื่นคำร้องขอขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ รวมถึงขอผ่อนชำระครึ่งจำนวนต่องวด โดยอ้างสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ตนเองไม่สบายใจ เนื่องจากทรัพย์สินในส่วนที่หมอต้องรับผิดชอบคือ บ้านที่ตัวเองกับลูกพักอาศัยในปัจจุบัน ซึ่งตามกฎหมายหากผิดนัดชำระ 3 งวด อาจจะถูกยึดทรัพย์
“ปัญหาที่ตนเองประสบอยู่ยากที่จะหาทางออก เคยคิดจะฆ่าตัวตายแต่ก็ต้องต่อสู้ให้ถึงที่สุด แม้ว่าการมาร้องทุกข์เพื่อขอให้กระทรวงยุติธรรม เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยให้หมอชำระหนี้ตรงงวดครั้งนี้ ยังไม่รู้ว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน แต่หวังว่าการได้ออกมาร้องทุกข์ครั้งนี้ จะทำให้แพทย์คนดังกล่าวเห็นใจและหาเงินมาชำระหนี้ตามกฎหมาย” น.ส.กรรณทิพย์ กล่าว
น.ส.กรรทิพย์ กล่าวว่า ตนได้รับความเดือดร้อนหลังจากแพทย์คนดังกล่าว ผิดการผ่อนชำระหนี้ ไม่เป็นไปตามคำสั่งของ บริษัทสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์จำกัด มหาชน หรือ บสก.ซึ่งการผ่อนชำระหนี้เป็นไปตามคำสั่งของศาล ซึ่งเหตุการณ์นี้ย้อนไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ครอบครัวของตนเองและแพทย์คนดังกล่าว นั้นรู้จักและสนิทสนมกันเป็นอย่างดี จึงตัดสินใจได้ใช้สินทรัพย์ 6 รายการ ประกอบด้วยบ้านและที่ดินเป็นร้อยไร่ มูลค่าสินทรัพย์ประมาณ 200 ล้านบาท คิดเป็น 3 เท่า ของวงเงินกู้ที่แพทย์คนดังกล่าว ขอกู้ไปในวงเงิน 70 ล้านบาท เพื่อทำศูนย์สูตินารีเวชในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านเพชรบุรีตัดใหม่
แต่ปรากฏว่ามาระยะหลังแพทย์คนดังกล่าวผิดนัดผ่อนชำระเงินกู้ ทำให้เกิดปัญหากับทรัพย์สินที่ใช้ค้ำประกัน ตนจึงฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งศาลได้มีคำสั่งเป็นที่สิ้นสุดแล้ว โดยให้ผู้กู้กับผู้ค้ำประกันแบ่งชำระหนี้คนละครึ่ง ซึ่งล่าสุดเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือจาก บสก.แจ้งว่าแพทย์คนดังกล่าวผิดนัดชำระหนี้ 1 งวด จำนวน 450,000 บาท อีกทั้งต่อมาแพทย์ได้ยื่นคำร้องขอขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ รวมถึงขอผ่อนชำระครึ่งจำนวนต่องวด โดยอ้างสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ตนเองไม่สบายใจ เนื่องจากทรัพย์สินในส่วนที่หมอต้องรับผิดชอบคือ บ้านที่ตัวเองกับลูกพักอาศัยในปัจจุบัน ซึ่งตามกฎหมายหากผิดนัดชำระ 3 งวด อาจจะถูกยึดทรัพย์
“ปัญหาที่ตนเองประสบอยู่ยากที่จะหาทางออก เคยคิดจะฆ่าตัวตายแต่ก็ต้องต่อสู้ให้ถึงที่สุด แม้ว่าการมาร้องทุกข์เพื่อขอให้กระทรวงยุติธรรม เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยให้หมอชำระหนี้ตรงงวดครั้งนี้ ยังไม่รู้ว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน แต่หวังว่าการได้ออกมาร้องทุกข์ครั้งนี้ จะทำให้แพทย์คนดังกล่าวเห็นใจและหาเงินมาชำระหนี้ตามกฎหมาย” น.ส.กรรณทิพย์ กล่าว