รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้(7 พ.ค.)ที่กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์ มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาลงทะเบียนเพื่อยื่นทบทวนสิทธิ์การจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท "เราไม่ทิ้งกัน" โดยขณะนี้มีผู้ผ่านเกณฑ์ได้รับสิทธิ์เยียวยา 5,000 บาทแล้วจำนวน 12.8 ล้านคน มีการจ่ายเงินเยียวยาให้กับพี่น้องประชาชนไปแล้ว 11 ล้านคน และจะจ่ายให้ครบ 12.8 ล้านคนในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ในส่วนของการยื่นทบทวนสิทธิ์นั้นมีประชาชนยื่นทบทวนสิทธิ์มาแล้วกว่า 5 ล้านคน นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ รมว.คลังเปิดเผยว่า ขณะนี้นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง มองเห็นว่ายังมีประชาชนเดินทางมาร้องทุกข์ที่กรมประชาสัมพันธ์จำนวนมากอยู่ จึงได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขยายเวลาเปิดโต๊ะรับเรื่องร้องเรียนเรื่องเงินเยียวยา 5,000 บาท ไปจนถึงสัปดาห์หน้าคือวันที่ 15 พ.ค.63 จากเดิมจะสิ้นสุดการเปิดโต๊ะรับเรื่องร้องเรียนวันที่ 8 พ.ค.63 ส่วนในวันที่ 9-10 พ.ค.นี้ จะงดให้บริการ เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ ในขณะที่การปิดรับทบทวนสิทธิ์ผ่านเว็บเราไม่ทิ้งกัน.com จะยังคงปิดระบบวันที่ 10 พ.ค.นี้ตามเดิม ทั้งนี้จากการสอบถามประชาชนที่มายื่นเรื่องร้องเรียน พบว่าประชาชน มีปัญหาการลงทะเบียนไม่สำเร็จจำนวนมาก เนื่องจากเลขบัตรประชาชนไม่ตรงกับฐานข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย รวมถึงบางรายเข้าใจว่าเป็นการเปิดรับลงทะเบียนเงินเยียวยารอบใหม่ จึงขอเรียนว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดลงทะเบียนมาตรการเยียวยารอบที่ 2" ส่วนเรื่องการจ่ายเงินเยียวยานั้นในสัปดาห์หน้าจะจ่ายเงินให้ผู้ที่ผ่านเกณฑ์ได้ครบ 12.8 ล้านคนแน่นอน จากผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิ์ 16 ล้านคน ขณะที่ในส่วนของการยื่นทบทวนสิทธิ์ ปัจจุบันมีผู้ยื่นขอทบทวนสิทธิ์แล้ว 5.4 ล้านคน ในจำนวนนี้ผ่านเกณฑ์และได้รับเงินแล้ว 3.3 ล้านคน ส่วนที่เหลืออีก 2.1 ล้านคน กระทรวงการคลังจะเร่งส่งผู้พิทักษ์สิทธิ์ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 17 พ.ค.63 ซึ่งถือเป็นวันสิ้นสุดโครงการ โดยผู้ที่ลงทะเบียนทั้งหมดจะรู้ว่าตนได้รับสิทธิ์ หรือไม่ได้รับสิทธิ์ ส่วนใครที่ผ่านเกณฑ์คัดกรองของกระทรวงการคลังนั้นจะได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลแน่นอนทั้งนี้หลังจากวันที่ 17 พ.ค.63 ซึ่งปิดโครงการมาตรการเยียวยา ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังจะร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ดูแลกลุ่มที่ตกหล่น กลุ่มชายขอบ กลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ คนไร้บ้าน และกลุ่มที่ลงทะเบียนมาตรการเยียวยา 5,000 บาทไม่สำเร็จประมาณ 1 ล้านคน เพื่อพิจารณาหามาตรการช่วยเหลือเป็นลำดับต่อไป ซึ่งคนกลุ่มนี้อาจจะไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เพราะรัฐบาลมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว