ตรวจสภาพความแข็งแรงตัวอาคารพบมีการผุกร่อนทั้งโครงสร้างพื้นและคานเพราะใช้มานาน ทั้งดัดแปลงทำโกดังเก็บของ
นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัดกทม.ลงพื้นที่ลานจอดรถบางลำพูและสวนมะลิ เพื่อตรวจสภาพโดยรอบของตัวอาคาร และหาแนวทางพัฒนาอาคารและที่ดินทั้ง 2 แห่ง ให้เกิดความคุ้มค่าแก่ประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยบริเวณวงเวียนสวนมะลิ มีอาคารพาณิชย์ 44 คูหา ซึ่งได้หมดสัญญาเช่ากับกทม. เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 23 ราย (38 คูหา) และจะหมดสัญญาเช่าอีก 1 ราย (1 คูหา) ในเดือนพ.ย.61 ส่วน 5 คูหาที่เหลือเป็นอาคารร้าง ซึ่งขณะนี้ผู้เช่าอาคารได้ขอให้กทม.ทบทวนและให้ต่อสัญญาเช่าออกไปอีก 3 ปี เบื้องต้นกทม.โดยสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายได้เข้ามาตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคาร เนื่องจากอาคารพาณิชย์ที่ให้เช่ามีสภาพเก่าและใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน
โดยผลการตรวจสอบอาคารพบการผุกร่อนของคอนกรีตจนถึงชั้นเหล็กเสริมคอนกรีตในส่วนของโครงสร้างพื้นและคานอันเกิดมาจากการขาดการบำรุงรักษา รวมทั้งพบการลักลอบดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต อาทิ ต่อเติมชั้นลอย สร้างห้องน้ำใต้บันได ทุบกำแพงให้ทะลุเพื่อเชื่อมอาคาร รื้อถอนบันไดหลักดัดแปลงเป็นพื้นที่ใช้สอย อีกทั้งบันไดหนีไฟชำรุดเนื่องจากมีการก่อสร้างดัดแปลงทับที่ว่างด้านหลังอาคาร (ทางหนีไฟหลังอาคาร) ต่อเติมชั้นดาดฟ้าเป็นหลังคา
นอกจากนี้ ยังพบการใช้อาคารผิดไปจากที่ได้รับอนุญาตจากพาณิชยกรรม-พักอาศัย โดยดัดแปลงส่วนพักอาศัยเป็นโกดังเก็บสินค้า ส่งผลให้อาคารมีสภาพหรือมีการใช้ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของผู้เช่าหรือประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น กทม.จึงมีความจำเป็นต้องแจ้งไม่ต่อสัญญาเช่าแก่ผู้เช่า และดำเนินการตามกฎหมายควบคุมอาคารต่อไป