"ศบค."เผยไทยติดเชื้อไวรัสโควิด-19เพิ่ม 1 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายชาวออสเตรเลีย ชี้ตัวเลขคงที่หลักหน่วย จากการค้นหาเชิงรุก-เฝ้าระวังเข้มข้น ชี้เคสยะลา 40 ราย ผลตรวจไม่พบเชื้อโควิด ด้าน รพ.สุไหงโก-ลก สั่งกักตัวจนท.-หมอ62คน หลังผู้ป่วยโควิดปกปิดข้อมูล ด้าน"ผู้ดี" อ่วม! เหยื่อโควิดดับยอดพุ่งแซงหน้าอิตาลี รั้งแชมป์ยุโรปแทนที่ ขณะที่โรคร้ายยังคุกคามชาวโลกพ่นพิษทั้งตาย-ป่วยต่อเนื่อง ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 พ.ค.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงว่า ยอดผู้ติดเชื้อสะสมขณะนี้ 2,986 ราย ใน 68 จังหวัด โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดเสียชีวิตสะสม 55 ราย หายป่วยกลับบ้านเพิ่มอีก 14 ราย รวมยอดหายป่วยสะสม 2,761 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 173 ราย โดยผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นชายชาวออสเตรเลีย มีอาชีพเป็นผู้จัดการโรงแรมในจังหวัดพังงา สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย เป็นหญิง อายุ 27 ปี มีภูมิลำเนาจ.บุรีรัมย์ อาชีพพนักงานนวด กลับจากรัสเซีย ขณะที่เคส 40 ราย ที่จ.ยะลา รายงานเบื้องต้น ไม่พบผู้ป่วยยืนยัน คือผลเป็นลบ ด้าน นายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.นราธิวาส เปิดเผยว่า จากกรณีที่คนไข้จาก อ.แว้ง จ.นราธิวาส ซึ่งเข้ารับการรักษาไข้หวัด ที่โรงพยาบาล สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้ปกปิดความจริง ไม่ให้ข้อเท็จจริงกับแพทย์ในการซักประวัติ ทั้งที่คนไข้เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย โดยได้ไปร่วมกิจกรรมทางศาสนา กระทั่งผู้ป่วยคนดังกล่าวได้เข้าห้องไอซียู เนื่องจากพบว่าเป็นผู้ได้รับเชื้อโควิด-19 ทำให้ต้องมีการกักตัวบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยรายนี้ถึง 62 คนด้วยกัน เพื่อดูอาการเป็นเวลา 14 วัน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศเร่งช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน และอำนวยความสะดวกให้กับคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ โดยสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง จัดเที่ยวบินพิเศษนำคนไทยที่ตกค้างในฮ่องกงและมาเก๊ากลับประเทศไทย จำนวน 161 คน โดยสายการบิน Thai Smile เที่ยวบินที่ WE631 เส้นทาง ฮ่องกง - กรุงเทพฯ ออกเดินทางจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.63 เวลา 14.10 น. ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 16.05 น. ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ร่วมกับสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ได้จัดเที่ยวบินพิเศษของสายการบิน Maldivian Airlines นำคนไทยที่ตกค้างในมัลดีฟส์ 131 คน เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ เปิดเผยตัวเลขผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหราชอาณาจักร เพิ่มขึ้นเป็น 32,313 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าประเทศอิตาลี ที่มีจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตจำนวน 29,315 ราย ส่งผลให้สหราชอาณาจักร มีจำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 มากที่สุดในทวีปยุโรป แซงหน้าประเทศอิตาลี ที่เคยมีจำนวนมากที่สุดก่อนหน้านี้ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ ยังระบุด้วยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงสัปดาห์เดียว ที่สหราชอาณาจักรพบผู้ป่วยเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิดจำนวนมากกว่า 7,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสหราชอาณาจักรกำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ หนักที่สุดในทวีปยุโรป เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์แพร่ระบาดในหลายๆ ประเทศของภูมิภาคแห่งนี้ และจะส่งผลเป็นแรงกดดันต่อรัฐบาลอังกฤษ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ซึ่งได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบว่า เพราะตัดสินใจปิดเมืองช้าไป เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค โดยอังกฤษประกาศปิดเมืองเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา รายงานข่าวแจ้งว่า พรรคการเมืองฝ่ายค้านในอังกฤษ นอกจากวิจารณ์รัฐบาลว่าปิดเมืองล่าช้าไปแล้ว ยังตำหนิว่ารัฐบาลของนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน ยังได้ประสบความล้มเหลวในเรื่องการตรวจหาเชื้อโรคให้แก่ประชาชนที่ไม่ทั่วถึง และจัดหาอุปกรณ์ป้อกันการติดเชื้อให้แก่บุคลากรทางการแพทย์อย่างไม่เพียงพออีกด้วย ขณะที่ สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจำนวน 3,727,937 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 258,344 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวนสะสม 1,242,432 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 1,237,633 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 72,271 ราย