คอลัมน์ “ด้วยสมองและสองมือ” ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ถือว่าเข้าสู่ฤดูกาลของผลไม้ในภาคตะวันออก โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งถือได้ว่าเป็นผลไม้ยอดนิยมทั้งของชาวไทยและต่างชาติโดยเฉพาะจีน จนได้รับฉายาว่า “ราชาแห่งผลไม้” เพราะทุเรียนมีรสหวานละมุน ผสมผสานกับความหอมมันแบบกลมกล่อม กลายเป็นความอร่อยแบบลงตัว โดยเฉพาะทุเรียนจังหวัดระยอง มีจุดเด่นคือ ปลูกในพื้นที่ที่ใกล้ทะเล และภูเขา รวมทั้งดูแลใส่ปุ๋ยธรรมชาติที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุในดินน้ำกร่อย จึงทำให้ทุเรียนระยองมีรสชาติดี นายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า แครกเกอร์ทุเรียนเพื่อสุขภาพ เป็นผลงานสิ่งประดิษฐ์ด้านผลิตภัณฑ์อาหารของทีมนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคระยองที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ระดับภาค (ภาคตะวันออกและกรุงเทพมหานคร) จากงานประกวดสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ ประจำปีการศึกษา 2562 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มุ่งมั่นในการพัฒนายกระดับคุณภาพการเรียนการสอนตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อเตรียมกำลังคนสู่ศตวรรษที่ 21 โดยมุ่งเน้นให้นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา ได้คิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ให้มีคุณภาพ ทันสมัย ได้มาตรฐาน สามารถนำไปใช้งานได้จริง ตอบโจทย์ผู้ใช้ในชุมชน สังคม และภาคอุตสาหกรรม นายรณยศ คุ้มท้วม (กุ๊กไก่) นักศึกษาชั้นปวช. 3 สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ วิทยาลัยเทคนิคระยอง เล่าว่า แครกเกอร์ทุเรียน เกิดจากความคิดที่ตน และเพื่อนๆ รวมทั้งครูมานิดา หยาดทอง สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ ซึ่งเป็นครูที่ปรึกษา ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรโดยนำทุเรียนที่ล้นตลาด มาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม นำมาเป็นส่วนผสมหลักในการทำแครกเกอร์ทุเรียน ที่มีสูตรแตกต่างจากท้องตลาด โดยเน้นสำหรับคนรักสุขภาพ ปลอดไขมันทรานส์ และผู้ที่แพ้แป้งสาลี โดยจากการศึกษาพบว่าทุเรียนสายพันธุ์หมอนทองสามารถช่วยลดระดับไขมันหรือคอเลสเตอรอลได้เพราะมีสารโพลีฟีนอล (Pholyphenols) และมีเส้นใยที่ช่วยลดไขมัน ตลอดจนมีสารต้านอนุมูลอิสระ แม้ทุเรียนจะมีไขมันมาก แต่ก็เป็นไขมันชนิดดีที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย และเส้นใยของทุเรียนมีส่วนช่วยในการขับถ่ายให้สะดวกขึ้น โดยการบริโภคทุเรียนในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการเกิดโรค เช่น โรคหัวใจ และมะเร็งได้อีกด้วย ดังนั้น จึงได้เลือกทุเรียนพันธุ์หมอนทองของจังหวัดระยอง นำไปอบแห้งเพื่อเป็นส่วนผสมหลักในการทำสูตรแครกเกอร์ทุเรียนเพื่อสุขภาพ ซึ่งสูตรนี้ไม่ใส่ไข่และแป้งสาลี แต่เน้นใส่นมสดไขมันต่ำเพื่อเพิ่มรสชาติและความหอม และใช้แป้งข้าวโอ๊ตและแป้งข้าวกล้องมาเป็นส่วนผสมแทน เพราะแป้งสาลีมีกลูเตนซึ่งเป็นชื่อโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบมากในกลุ่มธัญพืชประเภทข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และข้าวไรย์ เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีคุณสมบัติเด่นคือ ทำให้อาหารมีความยืดหยุ่น เช่น ทำให้ขนมปังเหนียวนุ่ม อร่อย แต่การบริโภคกลูเตนอาจมีผลกระทบต่อระบบภูมิต้านทานของร่างกายบางคนที่อาจมีภาวะแพ้ต่อโปรตีนชนิดนี้ ซึ่งจะมีทั้งผลระยะสั้นและระยะยาวต่อระบบการย่อยและดูดซึมอาหารในลำไส้เล็ก โดยผู้ที่แพ้ ร่างกายจะไม่ย่อยกลูเตน หลังกินอาหารที่มีกลูเตนทุกครั้งจะรู้สึกมวนท้อง คลื่นไส้ ท้องอืด ขับถ่ายผิดปกติ สำหรับเด็กเล็กอาจทำให้การเจริญเติบโตไม่สมวัย เกิดภาวะทุพโภชนาการได้ ขั้นตอนการผลิตเริ่มจากนำข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง ปั่นให้ละเอียดแล้วร่อน 2 ครั้ง นำมาชั่งตามน้ำหนักที่ต้องการ เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที ผสมแป้งข้าวโอ๊ตและแป้งข้าวกล้อง น้ำตาล เนื้อทุเรียนอบแห้งบด และเกลือผสมให้เข้ากัน ค่อยๆ เทนมลงไป คนให้เนื้อส่วนผสมเนียนเข้ากันและพักไว้ประมาณ 30 นาที ทาไขมัน (shorteningที่ผลิตจากน้ำมันรำข้าว) ลงแผ่นรองอบแล้วนำแป้งที่พักจนครบเวลาแล้ว นำพิมพ์มาวางและใช้ที่ปาด เกลี่ยเนื้อแป้งให้ทั่วพิมพ์และยกออก จากนั้นนำเข้าเตาอบ อบประมาณ 15 นาที แล้วค่อยกลับถาดแล้วอบต่อ 10 นาที นำออกจากถาดพักบนตะแกรงให้เย็น จะได้แผ่นแครกเกอร์ทุเรียนที่บางกรอบและมีสีเหลืองทอง มีรสหวานเค็มและหอมหวนกลิ่นทุเรียนกลมกล่อม ผ่านการตรวจสอบคุณภาพความปลอดภัยของอาหาร ตรงตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ขนมปังกรอบ มผช. ๕๒๓/๒๕๕๕ จาก บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด สาขา ฉะเชิงเทรา และผ่านการตรวจสอบการปนเปื้อนของโคลิฟอร์มแบคทีเรียที่ปนเปื้อนจากภาชนะและมือผู้สัมผัสอาหาร จากโรงพยาบาลระยอง แครกเกอร์ทุเรียนเพื่อสุขภาพปลอดไขมันทรานส์และผู้ที่แพ้แป้งสาลี บรรจุใส่กล่อง ๆ ละ 2 ซอง ๆ ละ 20 กรัม รวม  40 กรัมซึ่งมีปริมาณ 108.97 แคลอรี่ต่อกล่อง ราคา 59 บาท บริการจัดส่งทั่วประเทศ สนใจติดต่อได้ทางเฟสบุ๊คที่เพจ Durian cracker หรือที่โทร.061-837-9991 หรือที่วิทยาลัยเทคนิคระยอง