เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอการผ่อนปรนการอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และการทำงานให้กับแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานตามข้อตกลงที่รัฐบาลไทยได้ลงนามกับรัฐบาลประเทศคู่ภาคี โดยไม่ให้นำมาตรา 12 (10) และมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาบังคับใช้แก่คนต่างด้าว และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่กำหนด โดยมีสาระสำคัญ คือ สืบเนื่องจากครม.มีมติเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ผ่อนผันให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย อยู่ในราชอาณาจักร และทำงานไปถึงวันที่ 30 เม.ย.2563 แต่มาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คนต่างด้าวดังกล่าวไม่สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางได้ต่อไปอีกในช่วงระยะเวลาหนึ่ง นางนฤมล กล่าวต่อว่า ดังนั้น คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง และได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองที่วาระการจ้างงานครบ 4 ปีและระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง แต่ไม่สามารถเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ก่อนหรือในวันที่ 31 พ.ค.2563 จากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ส่วนคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาและเมียนมา ซึ่งถือบัตรผ่านแดนได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักร และอนุญาตให้พำนักในเขตพื้นที่ชายแดนที่ได้รับอนุญาตสิ้นสุด และไม่สามารถเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ก่อนหรือในวันที่ 31 พ.ค.นี้ อนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและทำงาน ตั้งแต่วันที่ 1 -31 พ.ค. และหลังจากสิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. แรงงานต่างด้าวต้องเดินทางออกจากราชอาณาจักรภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงมหาดไทยที่เกี่ยวข้องต่อไป