เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 พ.ค. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เกตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สามารถ ศรีศิริวิบูลย์ชัย ผบก.น.5 พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นทั้วม รอง ผบช.น. รรท.ผบก.น.4 พ.ต.อ.โสภณ สารพัฒน์ รองผบก.น.5 พ.ต.อ.สินเลิศ สุขุม รอง ผบก.น.4 พต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.ณัฐกิตติ์ จอกโคกสูง รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ พ.ต.ต.อัครพล ธนธรรม พ.ต.ต.อิธิธร ประเสริฐศักดิ์ สว.สส.สน.ทองหล่อ พ.ต.ต.กิตติเชษฐ์ กิติสาร สว.สส.สน.ทองหล่อ และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ แถลงผลการจับกุมนายแบงค์ (ขอสงวนชื่อนามสกุล) อายุ 27 ปี กับพวก 8 คน พร้อมของกลาง กัญชาแห้ง น้ำหนัก 3 กิโลกรัม เห็ดเมา น้ำหนัก 1 กิโลกรัม บริเวณร้านคาร์แคร์ในซอยรามคำแหง 24/3 แขวง หัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร และจับกุมนายเดี่ยว (ขอสงวนชื่อนามสกุล) อายุ 24 ปี พร้อมของกลางกัญชาแห้งน้ำหนักรวม 1,500 กรัม ที่บริเวณ ลานจอดรถห้างแห่งหนึ่ง ใน จ.ปทุมธานี และจับกุมนายบอส (ขอสงวนชื่อนามสกุล) อายุ 29 ปี พร้อมของกลางกัญชาแห้ง น้ำหนักรวม 2 กิโลกรัม และต้นกัญชาจำนวน 7 ต้น ที่ บริเวณบ้านพักไม่มีเลขที่ ซอยริมคลองสามเสน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร และนายยินมา อายุ 36 ปี สัญชาติจีน พร้อมด้วยของกลางกัญชาแห้ง น้ำหนัก 1 กิโลกรัม บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจยึดต้นกัญชา 317 ต้น ซอย รามคำแหง 27 แขวง หัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร รวมมูลค่าของกลาง 6 ล้านบาท พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ทำการตรวจสอบข้อมูลทางโซเชียลมีเดียหลังพบนักท่องเที่ยวที่พักอาศัยในพื้นที่สั่งซื้อกัญชาผ่านระบบออนไลน์พร้อมจัดส่งแบบเดลิเวอรี่ โดยโฆษณาขายกัญชาผ่านกลุ่มแอพพลิเคชั่นไลน์ ใช้ชื่อว่า “Heaven Herb” ใช้ ID Line : @heavenherb ในการรับลูกค้าเข้ากลุ่มดังกล่าวจำนวน 6,000 คน จากการสืบสวนขยายผลจนทราบว่ามีการส่งกัญชาจากบริเวณร้านคาร์แคร์ ท้ายซอย ซอย รามคำแหง 24/3 แขวง หัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร เป็นของนายแบงค์ สงวนชื่อนามสกุล อายุ 27 ปี พร้อมพวก 8 คน กำลังแบ่งหน้าที่กันทำงาน โต้ตอบลูกค้าทางแอพพลิเคชั่น บรรจุของเพื่อจัดส่ง รวมทั้งพบของกลางกัญชาแห้ง น้ำหนัก 3 กิโลกรัม เห็ดเมา น้ำหนัก 1 กิโลกรัม จากนั้นจึงได้ทำการสืบสวนขยายผลได้รับว่านำกัญชามาจากนายเดี่ยวและนายบอส จึงได้ทำการล่อซื้อเพื่อจับกุมจนสามารถจับกุมนายเดี่ยวพร้อมของกลางกัญชาแห้งน้ำหนักรวม 1,500 กรัม ที่บริเวณ ลานจอดรถห้างแห่งหนึ่ง ใน จ.ปทุมธานี และจับกุมนายบอสของกลางกัญชาแห้งน้ำหนักรวม 2 กิโลกรัม และต้นกัญชาจำนวน 7 ต้น ที่บริเวณบ้านพักไม่มีเลขที่ ซอยริมคลองสามเสน เขตพญาไท จากการสอบสวนทราบว่า นายเดี่ยว ยังให้การว่า กัญชาของกลางตนเองได้ซื้อชายชาวต่างชาติสัญชาติจีน ผ่านทางแอพลิเคชั่นไลน์ จนกระทั่งสามารถจับกุมนายยินมา อายุ 36 ปี ชาวต่างชาติสัญชาติจีน พร้อมด้วยของกลางกัญชาแห้ง น้ำหนัก 1 กิโลกรัม บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมขยายผลพบว่า นายยินมาปลูกกัญชาแบบออแกนิคโดยการติดหลอดไฟฟ้า ติดแอร์ ควบคุมอุณหภูมิห้อง ในห้องพัก ซึ่งเป็นตึกแถว 3 ชั้นเลขที่ 1991/29 รามคำแหง 27 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ โดยมีห้องปลูกกัญชา ที่บริเวณชั้น 3 และชั้น2 โดยชั้น 2 ยังมีห้องเพาะเลี้ยงต้นกล้าด้วย พบกัญชาทั้งหมดจำนวน 317 ต้น จากการสอบสวนนายยินมา ชาวจีน ให้การว่า นำเข้ากัญชามาจากต่างประเทศ นำมาปลูกจนกระบวนการผลิตเสร็จสิ้นจะขายในกิโลกรัมละ 7 แสนบาท โดยกลุ่มลูกค้ามีทั้งคนไทยและต่างประเทศ มีกำลังการผลิตเดือนละ 10 กิโลกรัม ส่งให้ลูกค้าวันละ 30-40 ราย ผ่านเดลิเวอรี่ มีลูกค้าที่เคยสั่งซื้อมาแล้วประมาณ 5,000-6,000 ราย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหานายแบงค์ พร้อมพวก 8 คนมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครอบโดยผิดกฎหมาย นำตัวพร้อมของกลางส่ง สน.หัวหมาก แจ้งข้อกล่าวหานายเดี่ยว มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย นำตัวส่ง สภ.คลองหลวง แจ้งข้อกล่าวหานายบอส มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย,พยายามจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อกล่าวหานายยินมา มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, พยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมาย และผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมาย นำตัวส่ง บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวอีกว่า ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัด บช.น. ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด อย่างเด็ดขาดและต่อเนื่อง ในส่วนกรณีการขนส่งและซื้อขายยาเสพติดผ่านพัสดุภัณฑ์ โดยดำเนินการเร่งรัดปราบปรามการค้ายาเสพติดผ่านแอพพลิเคชั่น รวมถึงประสานงานขอความร่วมมือไปรษณีย์ไทยและบริษัทเอกชน เพื่อหารือและวางมาตรการป้องกันการลักลอบหรือแอบอ้างขนส่งยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน พบเห็นการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแส ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ หรือ โทร. 191 ตลอด 24 ชั่วโมง