ผิดคาด หลังปลดล็อค ให้ลูกค้านั่งกินอาหารที่ร้านได้ แต่ส่วนใหญ่ ยังเลือกซื้อกลับบ้าน

ผิดคาด หลังคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.บุรีรัมย์ ออกประกาศปลดล็อคให้ลูกค้าสามารถนั่งรับประทานอาหารที่ร้านได้เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ค. ภายใต้เงื่อนไขเว้นระยะห่าง มีฉากกั้นระหว่างบุคคล แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ยังเลือกซื้อกลับไปกินที่บ้าน เพื่อความสะดวกและมั่นใจมากกว่า ด้านแม่ค้า เผย หลังปลดล็อคยอดขายกระเตื้องขึ้นกว่าเดิม วันนี้(4 พ.ค.63) หลังจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกประกาศปลดล็อค “เปิดบ้าน ปิดเมือง” เพื่อบรรเทาผลกระทบให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถค้าขาย ทำมาหากิน และผ่อนคลายให้ร้านจำหน่ายอาหารสามารถเปิดให้ลูกค้านั่งรับประทานอาหารที่ร้านได้ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องจัดโต๊ะแบบเว้นระยะห่าง มีฉากกั้นระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขาย ฉากกั้นระหว่างบุคคลที่นั่งรับประทานที่ร้าน และเงื่อนไขอื่นๆ ตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งจากการสำรวจร้านจำหน่ายอาหารหลายประเภท เช่น ร้านข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง ก็ได้มีการจัดร้านให้เป็นไปตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการโรคติดต่อกำหนด และเปิดให้ลูกค้านั่งกินที่ร้านได้แล้ว แต่จากการสำรวจบรรยากาศตามร้านอาหาร กลับผิดคาด พบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ยังเลือกที่จะซื้อกลับไปรับประทานที่บ้าน มากกว่านั่งกินที่ร้าน อาจเพราะบางคนเริ่มชินกับการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ขณะที่บางคนเชื่อว่าซื้อกลับไปกินที่บ้านสะดวกและปลอดภัยมากกว่า ทำให้บรรยากาศการนั่งกินที่ร้านไม่คึกคักเท่าที่ควร นางเพ็ญพิมล ปิณฑะพรพัฒน์ แม่ค้าขายร้านขายข้าวแกงปักษ์ใต้ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ บอกว่า หลังจากที่มีการปลดล็อคให้ลูกค้าสามารถนั่งรับประทานที่ร้านได้ ก็ถือเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่อยากจะนั่งกินที่ร้าน และส่งผลดีกับร้านทางร้านเองด้วย แต่หลังจากเริ่มเปิดให้นั่งกินที่ร้านตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นมา กลับพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ยังเลือกที่จะซื้อใส่ถุงกลับไปกินที่บ้านมากกว่า และจากการสอบถามลูกค้า ก็บอกว่า ซื้อไปกินที่บ้านสะดวกและมั่นใจมากกว่า บางคนก็เคยชินกับการซื้อไปกินที่บ้านแล้ว หลังจากที่มีการปรับตัวเชื้อสู้โควิดมากสักระยะแล้ว ยอมรับหลังจากที่มีการปลดล็อคก็ส่งผลให้ยอดขายกระเตื้องขึ้นจากเดิม แต่ยังไม่คึกคักเหมือนก่อนที่จะเกิดโรคไวรัสโควิด-19 ระบาด