ศิษย์ปิติกราบสรีระสังขารหลวงพ่อพูล เกจิดังวัดไผ่ล้อม ปรากฏเป็นสีทองอร่ามเกือบทั้งร่างหลังละสังขาร 15 ปี หลวงพี่น้ำฝน จัดพิธีเปลี่ยนจีวร ปีละครั้งศิษย์ใกล้ชิดเดินทางร่วมพิธีเช่นดังทุกปีแต่ไม่ได้เปิดให้ประชาชนเข้าร่วมดังเดิมใช้วิธีไลฟ์สด ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 ที่วิหารพระพุทธเมตตาประทานพร วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นประธานในพิธี ถวายสักการะสรีระพระเดชพระคุณ หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข โดยประกอบพิธีสรงน้ำ เช็ดตัว เปลี่ยนผ้าครอง ลงกระหม่อม โดยมีคณะสงฆ์ และเจ้าหน้าที่และศิษย์เอกเข้าร่วมในพิธีโดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่าย โดยในพิธีดังกล่าว วัดไผ่ล้อม ไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมพิธีการดังเช่นทุกปี เนื่องจากได้ยึดแนวปฏิบัติตามคำสั่งของจังหวัดนครปฐม เรื่องการปฏิบัติตัวไม่ให้มีการชุมนุม หรือรวมตัวกันจัดกิจกรรมในที่ไม่มีอากาศถ่ายเท แม้จะมีการผ่อนผันกฎบางส่วน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยยังมีการให้เว้นระยะห่าง Social Distancing อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ก็ยังมีลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธาในบารมีของหลวงพ่อพูลอย่างเหนียวได้มารวมตัวกัน ประมาณ 50 คน เพื่อมากราบเคารพครูบาอาจารย์ ซึ่งเป็นพิธีที่จัดขึ้นเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น สำหรับพิธีในพิธีเจ้าหน้าที่ได้นำสังขารของหลวงพ่อพูล ออกจากโลงกระจก โดยได้มาตั้งที่หน้าพระพุทธเมตตาประทานพร จากนั้นหลวงพี่น้ำฝน ได้นำในการปลดจีวรเก่าที่ห่มสรีระสังขารของหลวงพ่อพูลออก ซึ่งคณะสงฆ์ได้ทำการสวดเจริญชัยมงคลคาถาชะยันโตและบทธัมมจักกัปปวัตตนสูตร จากนั้นได้มีการทำความสะอาดสังขารและห่มจีวรผืนใหม่ ปิดท้ายด้วยพิธีที่ศิษยานุศิษย์และประชานได้ปฏิบัติกันทุกปีนั่นคือการลงหระหม่อม โดยนำศรีษะแนบกับปลายเท้าของสรีระสังขารของหลวงพ่อพูล เพื่อแสดงมุฑิตาจิตและขอพรเพื่อเป็นมงคลแก่ชีวิตเป็นเสร็จสิ้นพิธี โดยได้มีการแจกจีวรของหลวงพ่อพูลที่ได้ห่มเมื่อปีที่แล้วมาแจกจ่ายให้กับศิษยานุศิษย์ที่มาร่วมงานด้วย ซึ่งในปีนี้ สิ่งที่เป็นความปิติของศิษยานุศิษย์ และเป็นเรื่องอัศจรรย์ใจของผู้อยู่ในพิธีคือ สรีระสังขารของหลวงพ่อพูล ซึ่งหลังจากมรณภาพลงเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2548 สรีระสังขารกลับไม่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลา และช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็จะพบความน่าอัศจรรย์ คือ ยังมีเส้นผม และเล็บมือและเท้ายังงอกออกมาอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยทุกปีที่ผ่านมา บริเวณครึ่งท่อนบนตั้งแต่ศรีษะ จะเริ่มเปลี่ยนสีจากมีดำเข้ม ก็จะค่อยๆจางลงและกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนจนค่อนออกไปทางสีเคลือบทอง ซึ่งปีนี้สรีระสังขารของหลวงพ่อพูล ก็ได้เปลี่ยนเปลี่ยนสีเป็นสีทองไปทั่วทั้งร่าง ที่เห็นเด่นชัดคือที่หน้าอก แขน และหน้าแข้งซึ่งปีที่แล้วยังไม่ปรากฏเป็นมีเด่นชัด โดยได้สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับผู้ที่มาร่วมในพิธี โดยทางวัดได้จัดไลฟ์สดทางโซเชียล ให้กับผู้ไม่สามารถเข้ามาร่วมในพิธีได้ชมไปพร้อมกันด้วย สำหรับประวัติโดยย่อของ หลวงพ่อพูล ถือกำเนิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2455 ปีชวด เป็นบุตรคนที่ 6 ในจำนวนพี่น้อง 10 คน เริ่มจุดประกายเรียนรู้ เขียนอ่านอักขระภาษาขอม และวิชาแพทย์แผนโบราณ ฝากตัวเป็นศิษย์ ปู่แย้ม ปิ่นทอง ผู้เป็นปู่แท้ๆ เพื่อเรียนวิชาดังกล่าว ด้วยความตั้งใจ จนชำนาญการเป็นอย่างดี ที่สำคัญปู่แย้ม เป็นศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคม มาจาก หลวงปู่จ้อย วัดบางช้างเหนือ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และหลวงปู่กลั่น วัดพระประโทนเจดีย์ อีกด้วยอีกทั้งปู่แย้ม ยังมีเพื่อนรักอีกคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ที่ตำบลดอนยายหอม เป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน คือ นายพรม ด้วงพลู หรือที่รู้จักกันดีในนาม พ่อพรม จอมขมังเวทย์ แห่งดอนยายหอม ผู้เป็นบิดาของ หลวงพ่อเงิน เทพเจ้าแห่งดอนยายหอม พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองนามแห่งเมืองนครปฐม หลวงพ่อพูล เข้าอุปสมบท เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2480 ณ พัทธสีมา วัดพระงาม ระหว่างนั้นได้ฝึกเจริญจิตภาวนา ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อพร้อม วัดพระงาม อีกทั้งยังฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม กระทั่ง หลวงพ่อพูล ดำเนินวิถีธรรม ตามสังขาร ปลายทางร่วงโรย เจ็บป่วยตามธรรมชาติ ปราศจากกิเลสตัณหาราคะทั้งปวง บริสุทธิ์ประดุจพระสุปฏิปันโณ กำหนดจิตเจริญสมาธิ ภาวนาลาจาก ด้วยอาการสงบ เวลา 14 นาฬิกา 55 นาที วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 วันดังกล่าว เกิดปรากฏการณ์ 3 มงคล ตรงกับวันวิสาขะบูชา พิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ และหลวงพ่อพูล ละสังขารในวันเดียวกัน หลวงพ่อพูล ทิ้งไว้เพียงเสียงธรรมคำสอน และคุณงามความดี ตลอดอายุขัย 93 ปี โดยทางวัดไผ่ล้อมจึงได้มีการจัดให้มีพิธีการเพื่อลำลึกถึงครูบาอาจารย์ผู้ก่อตั้งวัดไผ่ล้อม และได้ยึดถือวันวิสาขบูชา เป็นหลักในการเปลี่ยนผ้าครองและลงกระหม่อม ให้กับศิษยานุศิษย์ สำหรับปีนี้ได้ตรงกับวันที่ 6 พฤษภาคม ซึ่งนับรวมถึงปีนี้ครบ 15 ปีพอดี โดยหากหลวงพ่อพูลยังมีชีวิตอยู่จะมีอายุ 108 ปี