หมอรพ.วิชัยยุทธ เผยเคสคนไข้กวาดลานวัดมาเป็นปี พบปอดมีโพรงฝีขนาดใหญ่ จากที่หายใจเอาสปอร์เชื้อราเข้าไป เป็นเชื้อราที่ใหญ่กว่าโควิดถึง 30 เท่า แขวนลอยในอากาศได้ แนะกวาดพื้นกำจัดมูลนกต้องใส่หน้ากากกันหายใจเอาสปอร์เชื้อราเข้าไป
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทยได้โพสต์ผ่านเพจ “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” ระบุ
“โรค Cryptococcosis คริปโตคอกโคสิส เกิดจากการหายใจสปอร์ของเชื้อราคริปโตคอคคัส นีโอฟอร์แมนส์ (Cryptococcus Neoformans) ที่อยู่ในมูลนกโดยเฉพาะนกพิราบเข้าปอด ทำให้เกิดปอดอักเสบ และสามารถกระจายเข้าสมองได้ด้วย
ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 52 ปีเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี เคยเป็นวัณโรครักษาครบแล้ว ได้ยาต้านไวรัส แต่หยุดยาเอง 9 ปี มาโรงพยาบาลด้วยไอ เสมหะสีเหลือง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด 10 กิโลกรัม เจ็บหน้าอกด้านซ้ายเวลาไอ ไม่มีไข้ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ อาชีพทำสวน ช่วยทำความสะอาดกวาดใบไม้ มูลนกพิราบในลานวัดเป็นปี ตรวจร่างกาย อุณหภูมิปกติ รูปร่างผอม ฟังปอดปกติ เจาะเลือด เลือดจางเม็ดเลือดแดงต่ำ เม็ดเลือดขาวปกติ เอกซเรย์ปอดมีโพรงฝีขนาดใหญ่ 8.8 X 7.9 เซนติเมตร เห็นน้ำในโพรงฝีที่ปอดซ้ายด้านล่าง(ดูรูป) ส่งเสมหะตรวจไม่พบวัณโรค ย้อมพบเชื้อราเห็นเป็นตัวกลมๆ (ดูรูป) เจาะเลือด Cryptococcal antigen ให้ผลบวก เพาะเชื้อราขึ้น Cryptococcus neoformans
สรุป: ผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อเอชไอวี หยุดยาต้านไวรัสเองมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ติดเชื้อราคริปโตคอคคัสจากการหายใจสปอร์ของเชื้อราที่อยู่ในมูลนกพิราบเข้าปอดเวลากวาดลานวัด ทำให้เกิดฝีในปอด
การรักษาให้ยาฆ่าเชื้อรา Fluconazole และยาต้านไวรัสเอชไอวี ติดตาม 5 สัปดาห์ อาการไอดีขึ้น เอกซเรย์ปอดเห็นฝีขนาดเล็กลงเหลือ 5 เซนติเมตร(ดูรูป)
สปอร์ของเชื้อราคริปโตคอคคัส นีโอฟอร์แมนส์ มีขนาด 3 ไมครอน (ขนาดใหญ่กว่าเชื้อไวรัสโรคโควิด 30 เท่า) สามารถแขวนลอยในอากาศเวลาเราทำความสะอาดบริเวณที่นกพิราบอาศัยอยู่ เวลากวาดพื้นกำจัดมูลนก เมื่อเราหายใจ สปอร์สามารถเข้าไปลึกถึงถุงลมในปอด ทำให้เกิดปอดอักเสบ การสวมหน้ากากอนามัย นอกจากช่วยป้องกันโรคโควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ วัณโรคแล้ว ยังช่วยป้องกันหายใจสปอร์ของเชื้อราเข้าปอดเวลากำจัดมูลนกพิราบอีกด้วย”
ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 52 ปีเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี เคยเป็นวัณโรครักษาครบแล้ว ได้ยาต้านไวรัส แต่หยุดยาเอง 9 ปี มาโรงพยาบาลด้วยไอ เสมหะสีเหลือง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด 10 กิโลกรัม เจ็บหน้าอกด้านซ้ายเวลาไอ ไม่มีไข้ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ อาชีพทำสวน ช่วยทำความสะอาดกวาดใบไม้ มูลนกพิราบในลานวัดเป็นปี ตรวจร่างกาย อุณหภูมิปกติ รูปร่างผอม ฟังปอดปกติ เจาะเลือด เลือดจางเม็ดเลือดแดงต่ำ เม็ดเลือดขาวปกติ เอกซเรย์ปอดมีโพรงฝีขนาดใหญ่ 8.8 X 7.9 เซนติเมตร เห็นน้ำในโพรงฝีที่ปอดซ้ายด้านล่าง(ดูรูป) ส่งเสมหะตรวจไม่พบวัณโรค ย้อมพบเชื้อราเห็นเป็นตัวกลมๆ (ดูรูป) เจาะเลือด Cryptococcal antigen ให้ผลบวก เพาะเชื้อราขึ้น Cryptococcus neoformans
สรุป: ผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อเอชไอวี หยุดยาต้านไวรัสเองมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ติดเชื้อราคริปโตคอคคัสจากการหายใจสปอร์ของเชื้อราที่อยู่ในมูลนกพิราบเข้าปอดเวลากวาดลานวัด ทำให้เกิดฝีในปอด
การรักษาให้ยาฆ่าเชื้อรา Fluconazole และยาต้านไวรัสเอชไอวี ติดตาม 5 สัปดาห์ อาการไอดีขึ้น เอกซเรย์ปอดเห็นฝีขนาดเล็กลงเหลือ 5 เซนติเมตร(ดูรูป)
สปอร์ของเชื้อราคริปโตคอคคัส นีโอฟอร์แมนส์ มีขนาด 3 ไมครอน (ขนาดใหญ่กว่าเชื้อไวรัสโรคโควิด 30 เท่า) สามารถแขวนลอยในอากาศเวลาเราทำความสะอาดบริเวณที่นกพิราบอาศัยอยู่ เวลากวาดพื้นกำจัดมูลนก เมื่อเราหายใจ สปอร์สามารถเข้าไปลึกถึงถุงลมในปอด ทำให้เกิดปอดอักเสบ การสวมหน้ากากอนามัย นอกจากช่วยป้องกันโรคโควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ วัณโรคแล้ว ยังช่วยป้องกันหายใจสปอร์ของเชื้อราเข้าปอดเวลากำจัดมูลนกพิราบอีกด้วย”