เพจเฟซบุ๊ก Peace News โพสต์ข้อความระบุว่า.. จี้คลายล็อกให้ทันทุกข์เดือดร้อน ฉะพวกไอโอทำลายคุณค่ามนุษย์ “จตุพร” เตือนคลายล็อก 4 ระยะหากช้า ไม่ทันแก้ ปชช.เดือดร้อน ระวังรัฐบาลจะอยู่ในภาวะระยะสุดท้าย แนะคนได้รับเงินควรห่วงอาทรคนไม่ได้เงิน ช่วยเป็นปากเสียงกระตุ้นรัฐบาลเร่งจ่ายเยียวยาให้เร็ว ซัดหน่วยไอโอรัฐบาล หยามเหยียดความเป็นมนุษย์ของคนฆ่าตัวตายหนีทุกข์ตกงานเดือดร้อน ตอกกลับเงิน 5 พันไม่ได้เป็นยาวิเศษให้หมดทุกข์หรือใช้ชีวิตมีคุณค่าเป็นปกติได้ เมื่อ 1 พ.ค. 2563 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการ PEACE TALK สื่อสารผ่านโวเชียลมีเดีย โดยเรียกร้องให้รัฐบาลคลายล็อกความทุกข์ ความเดือดร้อนของประชาชนให้กลับมาใช้ชีวิตทำงานได้หารายได้เลี้ยงปากท้องกันตามปกติ หากขืนชักช้า สถานการณ์จะประเดประดังสุมไฟให้รัฐบาลตกอยู่ในหลุมอำนาจระยะสุดท้ายได้ นายจตุพร กล่าวว่า การคลายล็อกทั้ง 4 ระยะ ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงเมื่อ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยระยะที่ 1 มี 6 กิจกรรมเริ่มวันที่ 3 พ.ค.นี้ เป็นการผ่อนปรนให้เปิดตลาด ร้านจำหน่ายอาหาร กิจการค้าปลีกส่ง กีฬาสันทนาการ ร้านตัดผม เสริมสวย และอื่นๆ เช่น ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับฝากเลี้ยงสัตว์ ซึ่งจะมีการประเมินผลใน 14 วัน หากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มไม่เกิน 30 คน จะให้เริ่มระยะที่ 2 โดยผ่อนคลายให้เปิดห้างสรรพสินค้า ที่เป็นสถานที่ปิด อย่างไรก็ตาม การออกแบบมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 1 นั้น มีโอกาสทำได้ยาก ยิ่งร้านอาหาร เช่น ร้านสุกี้ ซึ่งเป็นร้านสังสรรค์ทางสังคม จะให้นั่งกินคนเดียวคงกระไรอยู่ อีกทั้งตลาดนัดและถนนคนเดิน ต้องเว้นระยะห่าง 1-2 เมตรเพื่อหลีกเลี่ยงติดเชื้อโควิด เป็นแนวทางที่ยากจะปฏิบัติให้เป็นจริงได้ ส่วนการเยียวยาเงิน 5 พันบาท โดยเฉพาะกรณีการฆ่าตัวตายของ “ปลายฝน” หญิงสาวที่วาดรูป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทั้งน้ำตาเป็นรูปวาดสุดท้ายนั้น พวกหน่วยไอโอ (การปฏิบัติจิตวิทยาสื่อสาร) ฝ่ายรัฐบาลแสดงข้อมูลว่าได้รับเงินแล้ว แต่ไม่มองถึงคุณค่าชีวิตมนุษย์ เพราะการเยียวยาไม่ได้หมายความว่า ทำให้คุณภาพชีวิตของคนจนคนตกงานดีขึ้น อย่างมากก็แค่ได้ประทังชีวิต ได้ยังชีพชั่วคราวเท่านั้น "คนฝ่ายรัฐบาลไม่ต้องมาไอโอว่า คนที่ได้ 5 พันบาทแล้วตาย เป็นความผิดของคนตายเอง เพราะความเป็นรัฐบาลต้องใหญ่กว่าการไอโอแบบนี้ ต้องเห็นความตายของประชาชนเป็นความทุกข์ เพราะกว่าจะได้ 5 พันบาทก็แสนยากเย็น หากยิ่งมาทำให้คนไทยเกิดรู้สึกว่า ได้ 5 พันบาทแล้วรอดก็บ้าแล้ว" ดังนั้น เมื่อความเดือดร้อนยังอยู่ รัฐบาลจะเยียวยาอย่างไรก็คงไม่เพียงพอกับความทุกข์ของประชาชน สิ่งต้องรีบทำคือ ต้องพากลับไปใช้ชีวิตตามปกติโดยเร็ว ส่วนพวกมนุษย์บางจำพวก ซึ่งไม่เข้าใจ แล้วคิดแต่เงิน 5 พันบาทจะทำให้ชีวิตรอด ยิ่งเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งมาตรการคลายล็อกทั้ง 4 ระยะนั้น ประเทศไทยยังอยู่ในความมืดมน เพราะก่อนเกิดโควิดคนไทยยากลำบาก มีความทุกข์สะสมอยู่หลายปี เมื่อมาตรการโควิดมาซ้ำเติมให้เป็นทุกข์เพิ่มขึ้น ดังนั้น การคลายล็อกถ้าไม่ทันความเดือดร้อนแล้ว ระวังรัฐบาลจะตกอยู่ในภาวะระยะสุดท้ายเสียเอง "ประชาชนเดือดร้อนในวันนี้ เมื่อเลิกเคอร์ฟิวแล้ว นักศึกษาคงจัดชุมนุม ให้จำเอาไว้ว่า คนจะมากไม่รู้กี่ร้อยเท่า เพราะนักศึกษาในปี 2563 ร่วมตัวกันมากกว่ายุค 14 ต.ค. 2516 และมากกว่าการร่วมชุมนุมในปี 2535 เสียอีก ซึ่งถึงวันนั้นในอนาคตจะรู้ถึงสงครามจริงของนักศึกษา และ พวก ส.ว.จะรับรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร" จากการประเมินนั้น แม้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตั้งใจแก้ไขปัญหา แต่องคาพยพล้มเหลว สิ่งที่เห็นชัดคือ ไม่เลือกส่งเสียงกระตุ้นให้กับคนที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา 5 พันบาท กลับมุ่งไปโฆษณาให้ชวนเชื่อว่า รัฐบาลจ่ายเงินให้ 5 พันบาทแล้ว แม้การได้รับเงินไม่พร้อมกันก็อเนจอนาถ แต่ยังมาแบ่งแยกคนได้เงินกับไม่ได้เงิน แล้วนำมาทำลายไม่ให้เหลือความเป็นมนุษย์อยู่กันเลย วันนี้ ระหว่างคนที่ได้รับเงินกับไม่ได้รับ ต้องมีความรู้สึกที่ห่วงหาอาทรกัน หากบ้านเมืองไม่ความรู้สึกนี้ประเทศจะสิ้นความสามัคคี รวมทั้งในอนาคตคนไทยต้องใส่หน้ากากใช้ชีวิตอยู่กับโควิดให้ได้ จนกว่าจะมีความปลอดภัย แต่ไม่ได้หมายความว่า ทุกอย่างต้องถูกกดไว้โดย พรก.ฉุกเฉิน นอกจากนี้ การจ่ายเงินเยียวยาต้องเร่งเดินต่อไปให้ครบ และอย่าคิดว่าเงิน 5 พันบาทเป็นยาวิเศษ ซึ่งไม่ใช่ ส่วนการนำพาประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุดนั้น แม้ พรก.ฉุกเฉินยกเลิก แต่การฟื้นเศรษฐกิจต้องใช้เวลากันอีกนาน “ดังนั้น มาตรการคลายล็อกทั้ง 4 ระยะถ้าไม่ทันความเดือดร้อนของประชาชนแล้ว จำปากผมไว้เลย ท่านจะเป็นรัฐบาลระยะสุดท้าย หมายความว่า ถ้าประชาชนยังไม่หยุดฆ่าตัวตาย และความเดือดร้อนยังเต็มแผ่นดิน คงไม่มีรัฐบาลชุดไหนอยู่ได้แน่” นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ องคาพยพของรัฐบาลอาจคิดถึงเกมอำนาจ นักการเมือง นักเลือกตั้งอาจคิดถึงงบประมาณแผ่นดิน ขณะที่คนยากจนคิดจะอยู่แต่ละวันไม่ให้อดตาย จึงอยากเรียกร้องให้เห็นความทุกข์ของประชาชนถือเป็นหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และอย่าคิดว่าความทุกข์ของประชาชนมาสร้างปัญหาให้กับตัวเอง “ข้อเท็จจริงวันนี้ สิ้นเดือนเมษายนแล้ว การยังจ่ายเยียวยาคนละ 5 พันบาทเดือนแรกไม่ครบ ดังนั้นปัญหาจึงประเดประดังเข้าหา และยิ่งการคลายล็อกที่ไม่ทันกับความทุกข์ของประชาชนแล้ว ความทุกข์ทั้งหมดจะเป็นบ่วงกรรมให้กับรัฐบาล นั่นหมายความว่า รัฐบาลมีวันจบอำนาจ แต่ประเทศไทยยังเดินหน้าต่อไป จึงควรรักษาพื้นที่ความเป็นมนุษย์เอาไว้” นายจตุพร ย้ำว่า สิ่งสำคัญ คนที่ได้รับเงินเยียวยาแล้ว ควรเป็นปากเสียงให้คนยังไม่ได้รับ ส่วนพวกรับจ้างในหน่วยไอโอทั้งหลายอย่าออกมาซ้ำเติมความตาย ความทุกข์ของประชาชน เพราะกระทำเช่นนี้กระจอกและเลวทรามที่สุด