นพ.วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ตามที่พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 27 ก.ย.59 และประกาศใช้กฎหมายลูกอีก 6 ฉบับ มีผลบังคับใช้เมื่อ28 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ต้องขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง จึงจะสามารถประกอบอาชีพเป็นผู้ให้บริการฯได้ และผู้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ต้องรับผู้ให้บริการที่ได้รับใบรับรองขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพแล้วเท่านั้น เพื่อยกระดับคุณภาพผู้ให้บริการฯ ขจัดปัญหาสปา นวดไทยไม่มีมาตรฐาน คุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการที่ปลอดภัย ทั้งนี้ พ.ร.บ.กำหนดให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการฯต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ได้รับวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรด้านบริการเพื่อสุขภาพที่ได้รับการรับรองจากกรมฯ ไม่วิกลจริต ไม่ถูกพิพากษาถึงที่สุดในความผิดเกี่ยวกับเพศ/ทรัพย์/ยาเสพติด/ค้าประเวณี เป็นต้น ซึ่งผู้ให้บริการฯที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนดในพ.ร.บ. ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการฯ โดยพื้นที่กทม. ยื่นได้ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ก.สาธารณสุข จ.นนทบุรี ส่วนต่างจังหวัด ยื่นคำขอได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ หรือยื่นผ่านระบบ www.spa.hss.moph.go.th ทุกช่องทางไม่เสียค่าธรรมเนียมและใบรับรองใช้ได้ตลอดชีพตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป กรณีผู้พิการทางสายตาที่ผ่านอบรมหลักสูตรจากสถาบันศึกษา หน่วยงาน องค์กรทั้งรัฐและเอกชน ก่อนวันที่ 27 ก.ย.59 ให้ถือว่าเป็นวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่กรมสบส.รับรอง ให้ยื่นลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 23 ธ.ค.60 สอบถาม 0-2193- 7000 ต่อ 18106 และ 18226