รัฐบาลเตรียมคิกออฟแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจผลกระทบโควิด-19 ในประเทศ 4 แสนล้านบาท หนุน"เกษตรดั้งเดิม-เกษตรสมัยใหม่-ตลาดออนไลน์-พัฒนาแรงงานฝึกอาชีพ" เตรียมชง"ครม."กลางเดือนพ.ค.นี้ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนท้องถิ่นเดือนมิ.ย.63 เพิ่มความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากนำพาประเทศพ้นวิกฤติ ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เมื่อวันที่ 30 เม.ย.63 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 พ.ศ.2563 ว่า ในระหว่างที่ทุกฝ่ายร่วมกันอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ทุกอย่างต้องมีต้นทุน ทั้งการหยุดกิจการ ขาดรายได้ รัฐบาลจึงใช้เงินเยียวยาให้กับกลุ่มต่างๆ ประมาณ 550,000 ล้านบาท ดังนั้นหลังจากปัญหาการแพร่ระบาดคลี่คลายลง ในช่วง 3-6 เดือน ต้องหันมาเน้นสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก เพื่อพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศ วงเงิน 400,000 ล้านบาท จาก พ.ร.ก.เงินกู้ เพื่ออาศัยจังหวะนี้พัฒนาท้องถิ่นในต่างจังหวัด ทั้งนี้ เตรียมเปิดให้ส่วนราชการ รัฐวิสหากิจ หน่วยงานต่างๆ ทั้งกองทุนหมู่บ้าน มูลนิธิ เสนอจัดทำโครงการพัฒนาท้องถิ่น ประกอบด้วย 1.การพัฒนาอาชีพเกษตรดั้งเดิม 2.การพัฒนาแหล่งน้ำรองรับภาคเกษตรในชนบท 3.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวในชุมชน เตรียมรองรับการท่องเที่ยวในประเทศหลังจากโควิด-19 คลี่คลาย นำไปสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน 4.การพัฒนาด้านการผลิต การตลาดออนไลน์ ขนส่งสินค้ากระจายจากชุมชนไปยังภูมิภาคต่างๆ เพื่อให้ชุมชนหันมาเน้นทำตลาดออนไลน์มากขึ้น 5.การพัฒนาบุคลากร จากหลายหน่วยงาน ทั้งการท่องเที่ยวฯ มหาวิทยาลัย เพื่อฝึกอบรมแรงงาน นักศึกษาจบใหม่ เพื่อให้มีงานทำ หากรัฐบาลตั้งรับปัญหาเศรษฐกิจ สร้างเงินหมุนเวียนได้ทัน ภาวะเศรษฐกิจต้นปีหน้าจะไม่หยุดชะงักหรือเสียหายมากเกินไป และยังรองรับปัญหาได้เมื่อมีงานทำ ทุกกิจกรรมกลับมาดำเนินการได้ทั้งในเมืองและชนบท โดยเมื่อกำหนดหลักเกณฑ์การจัดทำโครงการแล้ว สศช.เตรียมเสนอที่ประชุมครม.พิจารณาประมาณกลางเดือนพ.ค.63 เมื่อเปิดให้ทุกหน่วยงานเสนอโครงการพัฒนาท้องถิ่น คาดว่าการจัดโครงการขนาดเล็กจะลงไปพัฒนาท้องถิ่นได้ในต้นเดือนมิ.ย.63เพื่อหวังให้เงินกู้ 400,000 ล้านบาท ช่วยพัฒนาชนบทให้เข้มแข็ง "เมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัวพึ่งพาการส่งออกไม่ได้ การท่องเที่ยวไม่มีต่างชาติเดินทางเข้ามา จึงต้องพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศผ่านโครงการระยะสั้น หลังจากเดือนต.ค.63 จะใช้งบประมาณจากภาครัฐฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ในช่วงต่อไปผ่านเงินงบประมาณปกติของภาครัฐ" นายสมคิด กล่าว