"ศบค."คลายล็อก 6 กิจการ เริ่ม 3 พ.ค.นี้ เผย"นายกฯ"ส่งสารขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมเสนอแนะมาตรการ ผ่อนปรน ระบุเป็นหน้าที่ของคนทั้งประเทศต้องร่วมมือกัน ด้าน"สมช."แจงยังคุมเข้มคนไทยเดินทางเข้า-ออกทุกช่องทาง ส่วน"สิงห์สุรา"คอตก"ปลัดมท."ย้ำชัดข้อสั่งการ"ศบค" ห้ามจำหน่ายสุรา-เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปจนถึง 31 พ.ค. ขณะที่ "ครอบครัวอยู่วิทยา" สนับสนุนทำโครงการ "พึ่งตน เพื่อชาติ" งบ 300 ล้าน "วิเชียร" บอกยังไม่เห็นใบลาออก "ณัฏฐพล"หลังมีข่าวยื่นลาออกจาก กก.บห.แล้ว ชี้หากแสดงเจตนาจะลาออก ถือว่ามีผลแล้ว ระบุรอกกต.เคาะประชุมใหญ่ได้เตรียมนำเข้าที่ประชุมตั้งกก.บห.ทดแทน ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 30 เม.ย.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า ผลการประชุมศูนย์ศบค.ให้ข้อกำหนดและมาตรการผ่อนปรน 6กิจการ ได้แก่ 1.เรื่องตลาด ตลาดสด ตลาดนัดตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย ให้มีการผ่อนปรนให้ทำ 2.ร้านจำหน่ายอาหาร ได้แก่ ร้านอาหารทั่วไป ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศครีมที่อยู่นอกห้างสรรพสินค้า สามารถเปิดดำเนินการได้ ร้านอาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่ 3.กิจการค้าปลีกส่ง ซูเปอร์มาเก็ต ร้านสะดวกซื้อ บริเวณพื้นที่นั่งหรือยืนรับประทานก็อนุญาตให้มี แต่ต้องอยู่ในกฏเกณฑ์ รวมถึงรถเร่หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าปลีกขนาดย่อม ร้านค้าปลีกชุมชน ร้านค้าปลีกธุรกิจสื่อสารคมนาคม 4.สันทนาการกิจกรรมในสวนสาธารณะ ได้แก่ เดิน รำไทเก๊ก สนามกีฬากลางแจ้ง ที่เป็นการออกกำลังกายโดยไม่ได้เล่นเป็นทีม และไม่ได้มีการแข่งขัน ได้แก่ เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยานเป็นต้น 5.กลุ่มร้านตัดผม เสริมสวย ตัดทำเฉพาะตัด สไลด์ผม และ 6.อื่นๆ ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์ โดยจะเริ่มวันที่ 3 พ.ค.63 และยึดถือข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ในช่วง 14 วัน จะเป็น 14 วัน ของการเปลี่ยนแปลง และการปรับตัว และจะได้ใช้ชีวิตวิถีใหม่อย่างที่เราพูดว่ากัน เพราะฉะนั้นถ้าเราช่วยกันได้ก็จะประสบความสำเร็จและทำให้ตัวเลข 1 หลักไปอีก 3 เดือนข้างหน้า เราคงจะผ่านพ้นภัยร้ายจากประเทศได้ "นายกฯ ได้มีสารต่อการเริ่มดำเนินการมาตรการผ่อนปรนในวันนี้ วา 1.เน้นย้ำว่าการดำเนินการในขั้นนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของคนไทยทั้งประเทศที่ได้ตัดสินใจร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปด้วยกัน ทั้งในเรื่องการระบาดและผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยหากเราสามารถควบคุมสถานการณ์ด้านสาธารณสุขในระยะแรกนี้ได้ ก็จะมีการดำเนินมาตรการผ่อนปรนในระยะต่อๆ ไปได้ 2.ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่ด้วยกันด้วยความเสียสละ ทำให้ประชาชนปลอดภัย บรรเทาความเดือดร้อนในเรื่องค่าครองชีพ ค่าใช้จ่าย วิถีชีวิตของประชาชน และป้องกันการแพร่ระบาดไม่ให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าได้ หากเราควบคุมได้ไม่ดีทุกอย่างก็จะแย่ลง ทุกคนเข้าใจดีว่าภารกิจนี้อาจจะเป็นงานที่ยาก ท้าทายแต่หากเราทุกคนโดยเฉพาะผู้ประกอบการ ผู้รับบริการ ผู้อุปโภคบริโภค และประชาชนร่วมมือกันด้วยความตั้งใจ มุ่งเน้นในเรื่องของการป้องกันตนเอง และผู้ มีสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เผื่อแผ่ แบ่งปันกัน ก็จะสำเร็จได้ และสุดท้ายต้องขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมกันในคณะกรรมการพิจารณามาตรการผ่อนปรน ซึ่งประกอบไปด้วยภาครัฐ ภาคธุรกิจ เอกชน ประชาชน ผู้ประกอบการบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ให้ข้อเสนอ และหามาตรการที่เหมาะสมในการดำเนินการมาอย่างรอบคอบ คงไม่ใช่เพราะคำสั่งหรือการตัดสินใจของนายกฯ เพียงคนเดียว ต่อจากนี้จะเป็นหน้าที่ของคนไทยทั้งประเทศที่ต้องช่วยกัน ร่วมมือกัน มาตรการครั้งนี้ถึงจะสำเร็จได้" ด้าน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มาตรการห้ามจำหน่วยสุรา ว่า ในเรื่องของการขายเหล้า แอลกอฮอล์ ช่วงที่ผ่านมา เหล้าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค จึงเกิดข้อกำหนด ห้ามจำหน่ายถึง 30 เม.ย.63 ต่อมา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ออกข้อสั่งการว่าการสั่งการใดที่มีผลถึง 30 เม.ย.63 ให้ดำเนินการต่อไปจนถึง 31 พ.ค. จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น มหาดไทยก็จะดำเนินการต่อไป จึงยังไม่มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระยะนี้ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ส่วน พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงเรื่องการเดินทางกลับประเทศของคนไทย ว่า การเดินทางในประเทศยังอยู่ในห้วงที่ยังไม่ได้ผ่อนปรน แต่ไม่ถึงกับห้าม แต่ขอให้มีการจำกัดการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัดหากไม่จำเป็น เมื่อถามว่า ภายหลังการผ่อนปรนจะมีคนทะลักเข้ามาในประเทศตามชายแดน รวมถึงแรงงานต่างด้าวที่จะแอบเข้ามาด้วยจะมีการควบคุมอย่างไร พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องอำนวยความสะดวกให้คนไทยทุกคนได้กลับบ้าน ทั้งทางอากาศและทางบกได้มากที่สุด แต่ต้องบริหารจัดการให้สอดคล้องกับมาตรการการกักตัวในสถานที่ของรัฐ ในส่วนของแรงงานที่เดินทางมาจากฝั่งมาเลเซีย เราได้มีการจำกัดจำนวนให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้วันละ 350-400 คน แต่เชื่อว่าในระยะยาวสถานการณ์ในประเทศไทยและประเทศมาเลเซียจะดีขึ้น เรื่องการทะลักกลับมาของคนไทยก็จะน้อยลง เมื่อแรงงานต่างด้าวเดินทางเข้ามาตามชายแดนทางจังหวัดไหน จังหวัดนั้นจะต้องดำเนินการกักตัว 14 วันตามมาตรฐาน ทั้งนี้ หากสถานที่กักตัวเรามากขึ้นก็จะสามารถเพิ่มจำนวนคนไทยที่จะกลับเข้ามาในประเทศได้ ส่วน นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่หน้ากระทรวงการคลัง เพื่อติดตามการร้องทุกข์ขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ว่า ในวันที่ 1 พ.ค.63 เว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่พลาดไป กดปุ่มยกเลิกสิทธิ์รับการเยียวยา หรือยกเลิกการทบทวนสิทธิ์ปุ่มสีแดงโดยไม่ตั้งใจ ให้สามารถเข้าไปกดปุ่มสีม่วงเพื่อยื่นทบทวนสิทธิ์ได้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากที่ผ่านมา มีผู้ลงทะเบียนร้องเรียนมาจำนวนมากว่ ไปกดยกเลิก ทำให้ไม่สามารถเข้าไปทำรายการเพื่อขอรับเงินเยียวยาได้ โดยระบบจะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 06.00-18.00 น.ทุกวัน สำหรับการจ่ายเงินนั้น ในสัปดาห์หน้ากระทรวงการคลังจะจ่ายเงินให้ผู้ที่ผ่านสิทธิ์ได้ทั้งหมด 10.6 ล้านคน ทั้งนี้ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ได้สั่งการเร่งด่วนว่าให้สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดโต๊ะ เก้าอี้ เพื่ออำนวยความสะดวก ให้กับผู้ที่มาร้องเรียน โดยในวันที่ 30 เม.ย.เป็นวันแรกที่กระทรวงการคลังได้จัดโต๊ะจำนวน 5 ชุด เว้นระยะห่างตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ผู้ที่มาต้องเข้าคิว โดยมีเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือแนะนำ ซึ่งการดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น โดยการตั้งโต๊ะรับเรื่องนั้นจะมีไปต่อเนื่องตามเวลาราชการ "ต้องยอมรับว่า ประชาชนที่มาร้องเรียนมีหลายกรณี ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจจะไม่สามารถตอบหรือไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทันที แต่จะรับเรื่องไว้เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ยืนยันว่า หากประชาชนลงทะเบียนถูกต้อง ครบขั้นตอน มีเงื่อนไขถูกต้องจะได้รับเงินแน่นอน" สำหรับโครงการจ่ายเงิน 5,000 บาท คาดว่าในวันที่ 8 พ.ค.63 จะจ่ายเงินได้ครบทุกคน คาดว่า ประมาณ 16 ล้านคน โดยสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค. คาดว่าจะแจกเงินได้ไม่น้อยกว่า 10.6 ล้านคน เหลืออีก 5 ล้านกว่าคน จะพยายามเร่งกระบวนการทบทวนสิทธิ์ ส่วนการลงพื้นที่ของผู้พิทักษ์สิทธิ์ก็เร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย และผู้ลงทะเบียนก็เตรียมเอกสารพร้อม ทำให้การตรวจสอบรวดเร็ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศผู้มายื่นคำร้องไม่ได้รับเงิน 5,000 บาท ที่ประตู 4 กระทรวงการคลัง ตลอดช่วงเช้าเป็นไปด้วยความราบรื่น ต่างจากหลายวันที่ผ่านมา ที่เกิดเหตุวุ่นวาย เนื่องจากไม่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ที่มาร้องเรียนส่วนใหญ่พอใจที่กระทรวงการคลังจัดเจ้าหน้าที่มาดูแลอำนวยความสะดวก เมื่อได้รับคำชี้แจง และติดตามเรื่องก็มีความสบายใจ ไม่ได้เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายเหมือนหลายวันที่ผ่านมา โดยธนาคารกรุงไทยได้เร่งดำเนินการนำเต็นท์ขนาดใหญ่มากางที่จุดร้องเรียนเพิ่มเติมเป็นการด่วน เพื่อบังแดด บังฝน อำนวยความสะดวกให้ผู้ร้องเรียน ทางด้าน นายเฉลิม อยู่วิทยา หนึ่งในมหาเศรษฐีเมืองไทย ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทำจดหมายขอความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชน จากผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้มอบหมาย ให้ นายธนิต บัวเขียว ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายและบริหารความเสี่ยง เป็นตัวแทนเข้ายื่นหนังสือตอบรับแก่นายกฯ โดยเสนอแผนทุ่มงบประมาณ 300 ล้านบาท ช่วยเหลือประชาชนภายใต้โครงการพึ่งตน เพื่อชาติ ทั้งนี้ พล.ต.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ คณะทำงานนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าว นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ยื่นใบใบลาออกจากคณะกรรมการบริหารพรรค ว่า เห็นจากข่าวเหมือนกันว่าเซ็นใบลาออก แต่ส่วนตัวยังไม่เห็นใบลานั้นจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นใครมายื่นใบลาออกกับตนเลย ซึ่งตามระเบียบข้อบังคับพรรค เมื่อมีการยื่นใบลาออกจากกรรมการบริหารพรรคก็จะต้องดำเนินการภายใน 45 วัน ดังนั้นเมื่อมีใครยื่นมาตนก็จะดำเนินการนำเรื่องเข้าสู่การประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่ทดแทน และต้องแจ้งรายชื่อกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เพื่อจะได้นำไปประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป แต่ขณะนี้ทุกคนทราบดีว่าเรายังไม่สามารถประชุมใหญ่พรรคได้ เพราะยังติดในเรื่องของโควิด-19 อยู่ ซึ่งจากเดิมที่ทุกพรรคการเมืองจะสามารถจัดประชุมใหญ่ของพรรคได้ในเดือนเมษายน ก็ต้องรอไปก่อนจนกว่าจะมีประกาศจากกกต. ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีข่าวออกมาว่ามีการยื่นใบลาออกแล้วแบบนี้ถือว่ามีผลเลยหรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า "ผู้ที่แสดงเจตนาจะลาออกก็ถือว่ามีผลแล้วแม้ว่าจะไม่เห็นใบลาออกก็ตาม แต่ถือว่าเจ้าตัวได้แสดงเจตนาให้ปรากฏแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นการแสดงเจตนาต่อหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารท่านอื่นก็ถือว่ามีผลแล้ว" อย่างไรก็ตาม สำหรับตนคงไม่ไปโทรเช็คตามข่าวว่าจะลาออกหรือไม่อย่างไร แต่ตนจะดูที่หนังสือใบลาออกเป็นหลัก ซึ่งถ้าเจ้าตัวมีเจตนาจริงก็จะต้องมีหนังสือส่งมาที่ตนเพื่อดำเนินการต่อไป