เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 30 เม.ย.63 พ.ต.อ.ดร.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.ฝ่ายตรวจสอบสำนวนคดีฎีกา เผยถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้เคยระดมทุนทรัพย์จากผู้มีจิตศรัทธาเข้าช่วยเหลือ ด.ญ.ศิริพร ฮ่องกิ้ม อายุ 14 ปี และ ด.ญ.เนรัญชลา ฮ่องกิ้ม อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.3/3 และ ม.2/8 โรงเรียนร่อนพิบูลย์เกียรติวสุนทราภิวัฒน์ หลังได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ นายพยงค์ ฮ่องกิ้ม อายุ 58 ปี ผู้เป็นพ่อซึ่งมีภาวะเครียดและอาการป่วยซึมเศร้าจุดไฟเผาบ้านตัวเอง เลขที่ 109/2 หมู่ 4 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงตัวตายคากองเพลิง ส่งผลให้บ้านทั้งหลังและข้าวของเครื่องใช้ได้รับความเสียหายทั้งหมด เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายมนตรา พรมสินธุ นายอำเภอร่อนพิบูลย์ พร้อม นายปิยะวัฒน์ คงช่วย ปลัดอำเภอ ได้นำชาวบ้านในพื้นที่ไปช่วยกัน ทำพิธีลงเสาเข็มสร้างบ้านหลังใหม่ให้แก่เด็กหญิง 2 พี่น้องและมารดา โดยถือฤกษ์วางเสาเอกลงหลุมในเวลา 09.09 น.ตามความเชื่อด้านความก้าวหน้าและความเป็นสิริมงคล สำหรับบ้านหลังนี้จะมีลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว พื้นที่ใช้สอยขนาด 9 คูณ 12 ตารางเมตร สร้างบนพื้นที่เดิมที่ได้รับความเสียหาย สำหรับในช่วงที่บ้านกำลังก่อสร้างนั้น ทางเจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ร่วมกันทำเต๊นท์ชั่วคราวให้ 3 แม่ลูกได้พักพิงไปก่อน ขณะนี้ทุกภาคส่วนสามารถบรรเทาความเดือดร้อนไปได้มากพอสมควร "ในส่วนของความช่วยเหลือด้านเงิน ค่าครองชีพ และทุนการศึกษาของเด็กหญิงทั้ง 2 คน หลังจากที่มีการเผยแพร่ข่าวความเดือดร้อนออกไปได้มีผู้มีจิตศรัทธา โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 404-048183-8 ของนางอรุณ ฮ่องกิ้ม แม่ของเด็ก ยอดรวมขณะนี้มีจำนวนมากพอสมควรแล้ว โดยการบริหารจัดการเงินบริจาคจะอยู่ในความควบคุมดูแลของผู้หลักผู้ใหญ่หลายฝ่ายในพื้นที่ ขณะที่ น.ส.เมตตา จันทร์บุญแก้ว แพทย์ประจำตำบลควนพังกับทีมจิตอาสาในพื้นที่ก็เข้าให้การดูแลด้านสุขอนามัยของครอบครัวนี้ โดยจัดการตรวจสุขภาพ จัดหาหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ไว้ให้ป้องกัยภัยจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ด้วย" พ.ต.อ.ดร.ปราโมทย์ กล่าว