โชเฟอร์ เมล์ ปอ.68 รับดื่มเหล้าขาวเพียว ก่อนวิ่งรถ สำนึกผิดยกมือไหว้ขอโทษผู้โดยสาร ยันไม่ทำอีก ด้านผกก.สน.ท่าพระ เผยแจ้ง 2 ข้อหาหนัก เมาขับ-ขับประมาททำทรัพย์สินเสียหาย/คนเจ็บ ฝากเตือนผู้ประกอบการ สอดส่องดูแลคนขับรถ-อุปกรณ์ให้ดี ต้องคำนึงความปลอดภัยเป็นหลัก
จากกรณี รถโดยสารประจำทางปรับอากาศสาย ปอ.68 สีเหลือง ทะเบียน 11-5366 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ 68-019 วิ่งระหว่างบางลำพู-สมุทรสาคร เสียหลักชนแบริเออร์กั้นทางแบ่งฝั่งเส้นทางจราจร พลิกตะแคงขวางถนนตรงเชิงทางขึ้นสะพานข้ามคลองบางกอกใหญ่ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้โดยสารหญิง 3 ราย ถูกนำตัวส่งรพ.ตากสิน สอบสวนเบื้อง นายแสวง พาลี อายุ 48 ปี โชเฟอร์รถโดยสาร ให้การว่าก่อนเกิดเหตุเห็นชายขี่จยย.ไม่ทราบยี่ห้อรุ่นและทะเบียน ขวางด้านหน้าด้วยความช้า จึงบีบแตรไล่ แต่ชายดังกล่าวไม่พอใจเบรกรถกะทันหัน ทำให้ต้องหักพวงมาลัยหลบจนไปพุ่งชนแท่งแบริเออร์แล้วพลิกคว่ำ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดพบปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 257 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงแจ้งข้อหาขับขี่รถโดยประมาทจนทำให้ทรัพย์สินเสียหายและมีผู้บาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณเชิงขึ้นสะพานข้ามคลองบางกอกใหญ่ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 18 ส.ค. ที่สน.ท่าพระ พ.ต.อ.ณัฏฐพัชร์ ผดุงจันทร์ ผกก.สน.ท่าพระ นำตัวนายแสวง พาลี อายุ 48 ปี โชเฟอร์รถประจำทาง มาสอบสวนเพิ่มเติม โดยมี นายสุริยา สังข์รุ่ง เจ้าพนักงาน กรมการขนส่งทางบกเดินทางมาขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
จากการสอบสวน นายแสวง ให้การรับยอมรับว่า วันเกิดเหตุ ตนไปรับรถตั้งแต่ 04.00 น. แล้วดื่มเบียร์ไป 1 ขวด จนเวลา 08.00 น. จึงเริ่มวิ่งรถรับส่งผู้โดยสาร เมื่อวิ่งรถครบรอบก็ซื้อเหล้าขาว 40 ดีกรีจากร้านค้า มาดื่มเพียว 1 แก้ว ก่อนจะวิ่งรับส่งคนรอบใหม่ โดยตลอดวัน ตนทำรอบรถได้ 6 รอบก็ทำแบบนี้ทั้ง 6 ครั้ง คือ วิ่งครบรอบหนึ่งก็กินเหล้าขาว 1 แก้ว ซึ่งเจ้าของกิจการก็รู้ ส่วนเรื่องที่ตนบอกว่ามีจยย.แกล้งเบรกกะทันหันทำให้รถพลิกคว่ำนั้น ความจริงแล้ว ตนเห็นจยย.วิ่งช้าขวางอยู่ด้านหน้า จึงบีบแตรไล่ แต่ไม่เป็นผล ทำให้รถจะชนท้ายจยย.ดังกล่าว ตนจึงเหยียบเบรกกะทันหัน แต่ด้วยความมึนเมาจากดื่มเหล้าขาวมา จึงควบคุมรถไม่อยู่แถมเบรกรถก็มีปัญหา เลยต้องตัดสินใจหักพวงมาลัยชนกับแบริเออร์แทน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โชคยังดีที่เหตุการณ์นี้ไม่มีคนเสียชีวิต ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าก่อนวิ่งรถรับผู้โดยสารมักจะดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หลังจากนี้จะไม่ทำอีกแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ณัฏฐพัชร์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ นายแสวงได้ยอมรับว่าดื่มเหล้าขาวก่อนขับรถ เจ้าหน้าที่จึงแจ้ง 2 ข้อกล่าวหา คือ ขับรถในขณะมึนเมาสุรา และขับรถโดยประมาทจนทำให้ทรัพย์สินเสียหายและมีผู้บาดเจ็บ โดยในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ส่วนเรื่องเอาผิดผู้ประกอบการหรือไม่นั้น กรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงจะพิจารณาเอง ทั้งนี้ ฝากเตือนถึงผู้ประกอบการและขสมก. ขอให้กวดขันดูแลคนขับรถโดยสาร ตัวรถและอุปกรณ์ให้พร้อมใช้งานรับส่งคน และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยผู้โดยสารด้วย ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยให้คนขับดื่มสุรา หรือนำรถชำรุดมาวิ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังสอบปากคำ นายแสวง ได้ยกมือไหว้ขอโทษน.ส.กฤติยา จอดเกาะ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร หนึ่งในผู้บาดเจ็บ ที่เดินทางมาให้ปากคำที่โรงพัก พร้อมกับรับปากว่าแบบน้ำตาคลอเบ้าว่าจะไม่กระทำผิดซ้ำอีก ขณะที่ น.ส.กฤติยา กล่าวว่า ตนขึ้นประจำทางคันเกิดเหตุจากย่านบางลำพูเพื่อกลับที่พัก ตลอดทางรู้สึกว่ารถขับเร็วจนไม่กล้านอนในรถ กระทั่ง มาถึงจุดเกิดเหตุ เหมือนคนขับควบคุมรถไม่อยู่ จากนั้น ตนก็ไม่รู้เรื่องอีก รู้สึกตัวอีกทีรถก็คว่ำทำให้ขาซ้ายบวมแล้ว ฝากถึงผู้ขับรถโดยสารคนอื่นอย่าดื่มแอลกอฮอล์แล้ววิ่งรถ และขอให้หน่วยงานที่ดูแลช่วยตรวจให้เข้มงวดด้วย.