เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มติเห็นชอบโครงการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพเพิ่มขีดความสามารถให้กับนักเรียนโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล เพื่อส่งเสริมพัฒนาโรงเรียนในส่วนภูมิภาคให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องลดความเหลื่อมล้ำ โดยเป็นโครงการระยะยาวปี 63-65 วงเงินงบประมาณ 51,904 ล้านบาท ซึ่งจะพัฒนาโรงเรียนทั่วประเทศจำนวน 8,224 โรงเรียน แบ่งเป็นโรงเรียนระดับปฐมศึกษา 7,079 โรง โรงเรียนระดับมัธยม 1,145 โรง กระจายอยู่ทุกภาคของประเทศ แบ่งเป็น ภาคเหนือ 1,789 โรง ภาคใต้ 1,238 โรง ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก 2,152 โรง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3,035 โรง ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นโครงการสานต่อนโยบายเดิมของนายกฯ เริ่มตั้งแต่ปี 61 ผลักดันโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล ตามนโยบาย 1 ตำบล 1 โรงเรียนคุณภาพ ปีนี้จึงสานต่อให้ประสบความสำเร็จ น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าวมีเป้าประสงค์ 3 ด้าน คือ 1.ด้านโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาให้โรงเรียนมีวัสดุ อุปกรณ์ สถานที่เหมาะสม ส่งเสริมการเรียนรู้มีห้องเรียนอัจฉริยะ มีห้องปฏิบัติการ แหล่งเรียนรู้ วิชาทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ด้านภาษา และคุณธรรมจริยธรรม 2. ด้านส่งเสริมการศึกษา เน้นการพัฒนาหลักสูตร เช่น เพิ่มทักษะด้านต่างๆให้ผู้เรียน เน้นการเรียนรู้แบบแอก ทีฟเรนนิ่ง คือ กระบวนการเรียนการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและมี ปฏิสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่หลากหลายรูปแบบ และ 3.ด้านการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วม โดยส่งเสริม สนับสนุนให้คนในชุมชน เอกชน ครอบครัว วัดและโรงเรียนมีส่วนร่วมดูแลส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ “ครม.กำชับไปยังกระทรวงศึกษาธิการว่าต้องบูรณาการดำเนินโครงการร่วมกับโครงการอื่นๆ พิจารณาจัดกลุ่มโรงเรียนที่มีประเด็นปัญหาด้านต่างๆที่มีลักษณะเดียวกัน แก้ปัญหาเชิงระบบ ไม่ทำงานเป็นเบี้ยหัวแตก รวมถึงกำหนดกลไกการประเมินผลในการดำเนินการของโรงเรียนด้วย เพราะโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณเยอะ นายกฯกำชับว่าผลลัพธ์ต้องคุ้มค่า” น.ส.รัชดา กล่าว