ข่าวดี "ศบค."แถลงไทยติดเชื้อเพิ่ม 9 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,931 ราย ด้าน "กลุ่มประเทศท็อปทรีโควิด"ระบาดหนักสุดเริ่มคลายล็อกดาวน์ ส่วนแดนกังหันพบพวกมิงค์ในฟาร์มเลี้ยงติดไวรัส คาดพนักงานในฟาร์มเป็นตัวแพร่เชื้อ ขณะที่สถานการณ์ไวรัสมรณะยังอาละวาดทั่วโลกต่อเนื่อง ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 27 เม.ย.63นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุขในฐานะโฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงว่า ยอดผู้ติดเชื้อสะสมขณะนี้ 2,931 ราย ใน 68 จังหวัด โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดเสียชีวิตสะสม 52 ราย หายป่วยกลับบ้านได้เพิ่มอีก 15 ราย รวมยอดหายป่วยสะสม 2,609 ราย และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 270 ราย สำหรับผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 64 ปี มีอาชีพแม่บ้าน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า วันนี้ตัวเลขผู้ป่ายหายแล้ว 2,609 ราย คิดเป็นร้อยละ 89.01 ของยอดผู้ป่วยสะสมทั้งหมด ถือเป็นตัวเลขที่ดี และดียิ่งกว่าคือ ผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ของรอบ 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมาเพียง 9 ราย ถือเป็นวันแรกตัวเลขต่ำสิบ สำหรับการกระจายตามจังหวัด ยังคงเป็นกทม.สูงสุด 1,481 ราย ส่วนอัตราป่วยสูงสุดคือ ภูเก็ต 49.83 ต่อแสนประชากร ขณะที่จังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยเลยมี 9 จังหวัด ส่วนไม่มีผู้ป่วยใหม่ 28 วัน มี 12 จังหวัด โดยมีเพิ่มขึ้นมาคือแม่ฮ่องสอน ขณะที่ไม่มีผู้ป่วยใหม่รายงานใน 14 วัน มี 36 จังหวัด มีเพิ่มขึ้นมาคือ นครพนม ยังมีผู้ป่วยรายงานในช่วง 14 วัน มี 7 จังหวัด และมีรายงานผู้ป่วยในช่วง 7 วัน มี 13 จังหวัด ด้าน สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดพื้นที่ หรือล็อกดาวน์ ภายหลังจากประกาศบังคับใช้มาเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าหลายพื้นที่สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสยังคงรุนแรง ทั้งประเทศสหรัฐฯ รัฐนิวยอร์ก ประเทศสเปน เช่นเมืองมาดริด นอกจากนี้ ที่ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในภูมิภาคายุโรป และปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อมากเป็นอันดับ 3 ของโลก ก็ได้เตรียมแผนสำหรับผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ไว้เป็นระยะต่างๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อให้เศรษฐกิจภาคธุรกิจต่างๆ สามารถดำเนินกิจกรรมกันได้ เช่น ธุรกิจก่อสร้าง เป็นต้น รวมถึงประชาชนสามารถเดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพวกเขา และออกไปออกกำลังกายนอกเคหสถานได้ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. นี้ ส่วนร้านค้าปลีก และพิพิธภัณฑสถานต่างๆ จะให้กลับมาเปิดกิจการได้ในวันที่ 18 พ.ค. ขณะที่ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม จะกลับมาเปิดกิจการในวันที่ 1 มิ.ย. ขณะที่ กระทรวงเกษตรของประเทศเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยผลการตรวจโรคในตัวเพียงพอน หรือมิงค์ (Mink) ที่ฟาร์มเลี้ยงในเมือง 2 แห่ง ได้แก่ เมืองเจมเมิร์ท-บาเคล และเมืองลาร์เบค ใน จ.นอร์ดบราแบนท์ ทางตอนใต้ของประเทศ พบว่า มีมิงค์ 2 ตัว ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยคาดว่า พวกมันติดเชื้อจากพนักงานของฟาร์ม ซึ่งขณะนี้ มิงค์ทั้ง 2 ตัว ถูกนำตัวไปไว้ในสถานกักกันโรคแล้ว ด้าน สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจำนวน 2,995,152 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 207,008 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวนสะสม 881,510 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 987,322 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 55,415 ราย