เน็ตไอดอลสายบุญแจ้งความ ปอท.หลังไลฟ์สดแจกเงินคนเดือดร้อนโควิด-19 ร่วมกับ'จั๊กจั่น'เพื่อนดาราแล้วโดนเว็บพนันดูดเอาคลิปไปใช้งาน เกรงคนเข้าใจผิด เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 27 เม.ย. ที่ บก.ปอท.น.ส.สุมาลี (เปิ้ล) เลิศวิลัย อายุ 35 ปี เจ้าของธุรกิจวัตถุมงคล - เน็ตไอดอลสายบุญ และ นายประจวบ(กุ่ย) สุนาพจน์ อายุ 37 ปี สองสามีภรรยา เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิง ศศิพันธ์ คงเอียด รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท.แจ้งความว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 24 เม.ย.เวลาประมาณ 15.00 น. ตนได้เปิดเพจเฟซบุ๊กบัญชีชื่อ "Aya Saranya"ให้กับน้องเอย่า ด.ญ.ศรัญญา สุนาพจน์ อายุ 6 ขวบ จากนั้นได้โพสต์แรกขายเจลลี่หอม เสร็จแล้วได้ร่วมไลฟ์สดกับจั๊กจั่น - อคัมย์สิริ สุวรรณศุข ดารานักแสดงซึ่งเป็นเพื่อนกัน และผู้จัดการของจั๊กจั่นอีก 1 คน ผ่านเพจ "Aya Saranya" และเพจ"JakJaan" ว่าจะทำบุญแจกเงินแก่บรรดาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19 โดยกำหนดให้คนที่เข้ามาดูไลฟ์สดดังกล่าวช่วยกดแชร์ไปจำนวน 3 แชร์ แล้วคอมเม้นต์ความเดือดร้อนพร้อมส่งเลขบัญชีธนาคารมา ตนจะโอนเงินไปให้คนที่ได้รับการคัดเลือกรายละ 1,000 บาท กำหนดไว้วงเงินที่จะแจกในครั้งนี้ 50,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ตนทำกำไรได้มาจากการค้าขายจำหน่ายวัตถุมงคลและสินค้าอื่นๆ โดยวันนั้นตนและจั๊กจั่นได้ช่วยกันไลฟ์สดไปนานเป็นเวลาประมาณ 1 ช.ม. หลังจากนั้น ปรากฎว่ามีเว็บพนันได้แอบดูดเอาคลิปไฟล์สดไปโพสต์ในเฟซบุ๊กที่ทำปลอมขึ้นมาโดยใช้รูปและชื่อน้องเทย่า ลูกสาวตน พร้อมกับกระหน่ำรายงาน(รีพอร์ต)ไปทางเฟซบุ๊กจนตนฉบับไลฟ์สดในเพจของเราทั้งสองเพจโดนลบทิ้ง ซึ่งเมื่อกดเข้าไปดูในเพจปลอมจะเห็นเหมือนกับว่าตนกับจั๊กจั่นกำลังไลฟ์สดอยู่ จะมีคนเดือดร้อนจริงๆ และต้องการเงินหลงกลกดเข้าไปดูจำนวนมาก แต่ลิงค์ของคลิปดังกล่าวจะวิ่งไปที่เพจต่างๆ เช่น "เจ้าแม่ไฝเลขเด็ด...กำลังถ่ายทอดสด" , "แจกเงินช่วยเหลือ...กำลังถ่ายทอดสด" เป็นต้น ซึ่งทุกเพจจะเป็นเว็ปไซด์การพนันทั้งสิ้น ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าตนกับจั๊กจั่น กำลังไลฟ์สดแจกเงินคนเดือดร้อนกันอยู่ เป็นการสร้างความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงมาถึงตนและจั๊กจั่นได้ว่าเรามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับเว็บไซด์ส่งเสริมการเล่นพนันเหล่านั้น ซึ่งไม่ใช่ตัวตนแท้จริงของเราที่ตั้งใจทำบุญกุศลจากการจำหน่ายวัตถุมงคลได้ จึงต้องมาแจ้งความตำรวจ บก.ปอท. ด้านจั๊กจั่น - อคัมย์สิริ นักแสดงสาว ซึ่งวันนี้ติดธุระ ไม่สามารถมา ปอท. ได้โพสต์เฟซบุ๊กบัญชีชื่อ “Jakjaan” เมื่อวันศุกร์ที่ 24 เม.ย.เวลา 21.44 น.ว่า.... "แอดมินนะคะ มาชี้แจงเรื่องไลฟ์สดค่ะ... 1.ไลฟ์ผ่านเพจนี้คือของจริง เพจอื่นที่ไลฟ์อยู่คือปลอมหมดเลยนะคะ หลอกให้คนไปแชร์ สุดท้ายเอาเพจไปทำเพจหวย เพจการพนัน หรือขายเพจค่ะ เจอที่ไหนรบกวนช่วยกดรีพอร์ทกันเยอะๆค่ะ 2.แบ่งปันเงินหรือของ จะทำเฉพาะในไลฟ์เท่านั้นค่ะ จบในไลฟ์แล้วจบเลย รอโอกาสหน้านะคะ ขอความกรุณาอย่าเม้นต์ ส่งข้อความหลังไมค์หรือโทรมา ไม่เกิดประโยชน์ใดๆค่ะ 3.น้องจั่นและเพื่อนๆ เจตนาดี อยากแบ่งปันบ้างเท่าที่พอทำได้ ใครพลาดไปแล้วจะมาอารมณ์เสีย มาเม้นท์ตำหนิเม้นท์ด่า แอดมินจะบล็อกออกไปจากเพจนะคะ ถือว่าทัศนคติแย่ คุยกันไม่เข้าใจ ตัวน้องจั่นเองก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกับทุกคน งานระงับหมด กินของเก่าเหมือนกันค่ะ จึงขอวอนว่า เพจเราจะไม่ดราม่านะคะ ไม่งั้นคนที่คิดอยากช่วยอยากทำดี เค้าจะรำคาญแล้วหยุดกันหมด น้องจั่นกับแอดมินจะไปชวนเพื่อนๆที่พอมีกำลังแบ่งปันกันได้บ้าง มาปันกันอีกเรื่อยๆ คอยติดตามในเพจนะคะ ย้ำอีกครั้ง!!! เพจนี้คือของจริง เพจอื่นไม่ใช่ค่ะ " เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ปอท.ได้ประสานให้ พ.ต.ต.อิสรพงศ์ ทิพย์อาภากุล สว.กก.3 บก.ปอท.ช่วยตรวจสอบในเรื่องการนำเข้าสู่ระบบฯ และลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป น.ส.สุมาลี แจ้งว่า วันพรุ่งนี้(30 เม.ย.) เวลา 16.00 น. ตนและ จั๊กจั่น จะไปร่วมกันแจกนำ้ ,หน้ากากอนามัย และเงิน คนที่เดือดร้อนจากโควิด-19 คนละ 200 บาท รวม 100,000 บาท ที่บริเวณเยื้องตลาดนัดท่าอิฐ อ.เมือง จ.นนทบุรี เดี๋ยวเสร็จจากแจ้งความ ปอท.แล้วจะรีบไปประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและ อบต.ท่าอิฐ จะได้มาช่วยกันในเรื่องการจัดระเบียบ เว้นระยะห่างบุคคล ไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบในโซเชียลฯ พบว่า นายประจวบ และ น.ส.สุมาลี สองสามีภรรยา เคยถูกตำรวจกองปราบฯ จับกุมเมื่อ 6 พ.ย.2560 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน... หลอกเหยื่อให้ร่วมทุนและขายวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง สาลิกาลิ้นทอง พระพิฆเนศ อ้างนำเข้าจากอินเดีย-เมียนมา ใครบูชาจะทำให้ร่ำรวย มีโชค แต่ที่แท้เอามาจากท่าพระจันทร์ เสียหายรวมกันกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งนายประจวบ ชี้แจงว่า คดีดังกล่าวตนได้สู้คดีจนถึงที่สุด ในเรื่องความเสียหายได้ตกลงกับบรรดาผู้เสียหายคนเป็นที่พอใจแล้ว ส่วนความผิดอาญา ศาลตัดสินจำคุกรวม 20 ปี แต่ให้รอลงอาญา หลังจากคดีสิ้นสุดก็มาทำมากินเช่นสุจริตชนทั่วไป ได้รับโอกาสจากสังคมทั้งครอบครัวเราสามพ่อแม่ลูก เมื่อมีรายได้มาเราก็อยากจะแบ่งปันคนที่เดือดร้อน จึงตระเวนทำบุญกันตลอดมา ภาพข่าวสมัยปี 60 ก็กลับมาหลอกหลอนครอบครัวเราอีก ทั้งที่คดีสิ้นสุนแล้ว อยากจะบอกกับสังคมให้แยกแยะให้ออก คนเราผิดพลาดกันได้ ขอให้แยกแยะ อย่าเอาเรื่องในอดีตมาตัดสินตนและครอบครัวเลยครับ