นายอำเภอท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยทำให้ผู้นำท้องถิ่น อปท.กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน สาธารณสุขอำเภอ ตลอดจน อสม.ประจำหมู่บ้านเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนถูกผลกระทบที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ ต่างวิ่งวุ่นตรวจสอบนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายช่วยเหลือในพื้นที่อีก 3 ราย เนื่องจากที่ผ่านมายังมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาในโลกโซเชียล ว่ายังไม่ได้รับความช่วยเหลือ เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันที่ 24 เม.ย.63 นายฑรัท เหลืองสอาด นายอำเภอท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย นายสำราญ เอี่ยมสะอาด สาธารณสุขอำเภอฯ นางสาวณัฐติยา แก้วประดิษฐ์ เสมียนตราอำเภอฯ นายสรายุทธ จีนาภักดิ์ นายก อบต.บ้านใหม่ อ.ท่าม่วงฯ นายวิเชียร์ เทียนทองผล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านต้นลำใย ต.บ้านใหม่ อ.ท่าม่วงฯ นายสุรชัย กาญจนการันย์ ผอ.รพ.สต.บ้านใหม่ อ.ท่าม่วงฯ นางสาวธนภร เลิศโภไคย พยาบาลวิชาชีพฯ รวมทั้งเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร อสม.และ อส.ฝ่ายปกครอง ได้เดินทางนำถุงยังชีพไปช่วยเหลือผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ป่วยที่มีอาการทางสมอง จำนวน 3 ราย ซึ่งมีฐานะยากจน และได้รับผลกระทบในการแะร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 การตรวจสอบให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้พิการ ทั้ง 3 ราย เป็นการตรวจสอบเพิ่มเติมซึ่งมีรายชื่อตกสำรวจ จากนั้นเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน นายฑรัท เหลืองสอาด นายอำเภอท่าม่วงฯ พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ และนายวิบูลย์ เจริญพร นายกเทศบาลตำบลม่วงชุม นายไพบูลย์ คงอ้น กำนัน ต.ม่วงชุม นายคุณากร ชินนาหอม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วงฯ และ นพ.บุญเทียม มีตุ้ม นพ.รพ.สต.ม่วงชุม นางสาวกาญจนา อ่วมชม ผช.ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ,ต.ม่วงชุมฯ และเจ้าหน้าที่ อส.ฝ่ายปกครองฯ เจ้าอาสาสมัคร อสม.ประจำหมู่บ้าน ต.ม่วงชุม ได้เดินทางนำถุงยังชีพ และหน้ากากอนามัย ไปมอบให้แก่ประชาชนที่มีฐานะยากจน รวมทั้งผู้พิการทางสมอง แขนขาลีบติดเตียง รวมทั้งสิ้น 4 ราย ในพื้นที่ 2 ตำบล คือ ต.บ้านใหม่ ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วงฯ ซึ่งเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 จำนวนทั้งสิ้น 7 ราย ที่รอความช่วยเหลืออยู่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้โพสเฟ็ตบุ๊กส่วนตัวในโลกออนไลน์ ในเรื่องการปฎิบัติหน้าที่ราชการ โดยมีใจความว่า "สำหรับผมระหว่างช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อนด้วยจิตวิญญาณข้าราชการ กับการกลัวการตรวจสอบ ผมเลือกอย่างแรกครับ"เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ข้าราชการ โดยเฉพาะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการปกครองส่วนท้องถิ่น ในแต่ละพื้นที่ ของ 13 อำเภอ เร่งดำเนินการตรวจสอบช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอย่างจริงจัง