นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุโรคพิษสุนัขบ้าพบได้ตลอดปี และยังไม่มีทางรักษาหาย ใครป่วยจะเสียชีวิตทุกรายหากติดเชื้อและแสดงอาการแล้ว ซึ่งปีนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากถูกสุนัขหรือแมวกัด-ข่วน แล้วไม่รักษาหรือฉีดวัคซีนป้องกัน หากถูกสุนัข-แมวที่สงสัยเป็นโรคกัด ข่วน เลีย น้ำลายกระเด็นเข้าตา ปาก หรือผิวหนังที่แผล ต้องรีบล้างแผลทันทีด้วยน้ำและฟอกด้วยสบู่หลายๆครั้ง เช็ดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโพวีโดนไอโอดีน ถ้าไม่มีให้ใช้แอลกอฮอล์ 70% หรือทิงเจอร์ไอโอดีน รีบไปโรงพยาบาลใกล้ที่สุดทันที เพื่อฉีดวัคซีนป้องกัน อาการโรคพิษสุนัขบ้า เริ่มจาก 2-3 วันแรก จะเบื่ออาหาร เจ็บคอ ปวดเมื่อยเนื้อตัว มีไข้ อ่อนเพลีย ชา เจ็บเสียว หรือปวดบริเวณแผลที่ถูกกัด คันอย่างรุนแรงที่แผลและลำตัว ต่อมาจะกระสับกระส่าย กลัวแสง-ลม ไม่ชอบเสียงดัง เพ้อเจ้อ กลืนลำบาก โดยเฉพาะของเหลว กลัวน้ำ และกล้ามเนื้อขากระตุก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หรืออาจชัก เกร็ง อัมพาต หมดสติ และตายในที่สุด การป้องกันโรค แนะนำเจ้าของพาสุนัขอายุ 2-3 เดือนขึ้นไป ไปฉีดวัคซีนกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกปี หากพบเห็นสัตว์ที่สงสัยอาจเป็นโรคพิษสุนัขบ้า คือหางตก เดินโซเซ น้ำลายย้อย ลิ้นห้อย ตาขวาง ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ -ผู้นำชุมชน และช่วยกันจับอย่างระมัดระวัง อย่าให้ถูกกัด-ข่วน กักไว้ดูอาการ 10 วัน หากตายให้นำหัวหรือตัวส่งตรวจห้องปฏิบัติการของกรมปศุสัตว์ ทั้งนี้ รู้จักวิธีป้องกันไม่ให้สุนัขกัดหรือทำร้าย ด้วย คาถา 5 ย. “อย่าแหย่ อย่าเหยียบ อย่าแย่ง อย่าหยิบ อย่ายุ่ง กับสุนัขที่ไม่มีเจ้าของ หรือไม่ทราบประวัติ” จะช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า...