นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การนัดหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับบรรดามหาเศรษฐี เจ้าของกิจการขนาดใหญ่ นับว่าเป็นสิ่งที่ดี เพื่อหาทางออกร่วมกัน และเจ้าของกิจการขนาดใหญ่ เพื่อสอบถามดูว่าการแพทย์ขาดอะไรบ้าง ขณะนี้อยู่เบื้องหลังการช่วยเหลือป้องกันโควิด-19 จำนวนมาก โรงพยาบาลบางแห่งขาดเครื่องช่วยหายใจ หรือต้องซ่อมเพิ่มเติม เอกชนได้ส่งวิศวกรเครื่องมือแพทย์มาซ่อมแซม รวมทั้งห้องรักษาพยาบาล สำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนัก โดยแพทย์ต้องปลอดภัยด้วย จึงต้องใช้นวัตกรรมใหม่ ซึ่งพิเศษมากกว่าห้องไอซียูธรรมดา จึงต้องสร้างห้องรักษาใหม่ ทุกอย่างต้องระดมทั้งเงินทุนและความคิดเห็น จึงเป็นเรื่องที่ดีในการระดมความเห็นจากทุกฝ่าย นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์กล่าวว่า นับว่าเป็นความหลักแหลมของนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ทำหนังสือเชิญผู้นำกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ เปรียบรัฐบาลเสมือนเป็นฝ่ายหยินเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ดูแลกฎระเบียบ กำกับและออกนโยบายมาช่วยแก้ปัญหา สำหรับภาคเอกชนเป็นเหมือนหยาง เนื่องจากภาคเอกชนเหล่านี้มีกลไกครอบคลุมทุกกลุ่มตั้งแต่รายย่อย ซึ่งเป็นเครือข่ายทางการค้าไล่มาจนถึงเอสเอ็มอีและผู้ร่วมทุนรายใหญ่ จึงเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการสะท้อนปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อระดมความเห็นนำทั้ง 2 ด้านมาช่วยแก้ปัญหาจะส่งผลให้การพัฒนาฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังปัญหาโควิด-19 ทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยหลังจากนี้นายกฯเตรียมพร้อมหารือร่วมกับหลายฝ่าย ทั้งผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ผู้แทนจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้แทนจากนักวิชาการ การประชาสังคมอีกหลายเวที เพื่อนำข้อมูลจากทุกฝ่าย มาร่วมสังเคราะห์ข้อมูล และร่วมกันตัดสินใจนำพาประเทศหลังวิกฤติโควิด-19 ก้าวไปในทางดีที่สุด การเริ่มใช้เวลารับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายครั้งนี้ นับว่าเป็นแนวคิดที่ดีมาก