จากสถิติในปี 2562 ซึ่งมีผู้เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศถึง 39.8 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวจีนกว่า 11 ล้านคน โดยภาคการท่องเที่ยว โรงแรม และการเดินทางของไทย มีส่วนขยายอยู่ระหว่าง 12 - 15% ของ GDP และเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ด้วยวิกฤติโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบต่อตลาดการท่องเที่ยวไทยมากที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย แต่ด้วยผลสำรวจความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวของชาวจีนที่ได้ดำเนินการในช่วงกลางเดือนเมษายน 2563 โดย ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ และเดลิเวอร์ริ่ง เอเชีย คอมมิวนิเคชั่นส์ พบว่า 53% ของผู้ตอบแบบสอบถามซึ่งเป็นชาวจีนในเมืองชั้นนำ ต้องการเดินทางไปต่างประเทศภายในปีนี้ โดยเดือนที่มีการตั้งเป้าจะเดินทางมากที่สุด ได้แก่ สิงหาคม ตุลาคม และธันวาคม ซึ่งผู้บริโภคชาวจีนต้องการมาเที่ยวประเทศไทยถึง 71% ดังนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งมีหน้าที่ทำการตลาดให้กับการท่องเที่ยวของไทย จึงต้องเตรียมพร้อมรองรับตลาดเอเชียที่กำลังเดินทางเข้ามาอย่างเต็มที่ การทำงานแบ่งเป็น 2 ภาค ในเรื่องนี้ นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การทำงานในช่วงนี้คงต้องแบ่งเป็น 2 ภาค คือ สถานการณ์ปัจจุบัน และอนาคตอันใกล้ ส่วนหนึ่งคงเป็นสถานการณ์ในประเทศไทย ที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ หรือผู้ขายในเมืองไทย และผู้ซื้อ คือกลุ่มตลาดต่างประเทศในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งเวลานี้ได้มีการคาดการณ์กันว่า ตลาดเอเชีย น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วกว่าตลาดอื่นๆ อย่าง ตลาดยุโรป เป็นต้น ดังนั้นในเรื่องของการทำงานเวลานี้ จึงไม่ใช่เรื่องของการขายแบบฮาร์ดเซลล์ ที่มีโปรโมชั่นต่างๆ แต่เป็นการทำงานผ่านระบบออนไลน์ ด้วยแคมเปญสร้างความจดจำ และความประทับใจที่มีต่อประเทศไทย ซึ่งทางสำนักงานททท.ในกลุ่มตลาดเอเชียได้สร้างการรับรู้ผ่านแคมเปญ Top of Mind เพื่อให้นักท่องเที่ยวนึกถึงประเทศไทย ด้วยกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละสำนักงาน ทั้งสอนทำอาหาร เล่นเกมส์ทายชื่อแหล่งท่องเที่ยว บางแห่งอาจจะทำเทรดดิ้ง สอนทราเวลเอเยนต์ออนไลน์ สัมมนาออนไลน์ เพื่อพัฒนาทักษะการทำงานเพิ่มขึ้น ชูของดีของเด่นผ่านอาหาร ขณะที่การดำเนินงานของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานปักกิ่ง ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ด้วยการส่งเสริมการขายการท่องเที่ยวไทยในสื่อออนไลน์ของสำนักงาน ประกอบด้วย WeChat, Weibo, TIKTOK มาส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น TOP of Mind ของชาวจีน โดยแสดงถึงความห่วงใย ใส่ใจในเรื่องสุขภาพความเป็นอยู่ของชาวจีนตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2563 ที่วิกฤตการแพร่ระบาดเริ่มรุนแรงจนถึงปัจจุบัน เช่น การทำอาหารไทย ประกอบด้วยสมุนไพรที่มีสารอาหารสามารถเสริมภูมิต้านทานโรค พร้อมทั้งสอนวิธีการทำ ผลไม้ไทยที่มีวิตมินหลายชนิดที่ช่วยเสริมภูมิต้านทาน โดยหาซื้อได้สะดวกทางออนไลน์ในประเทศจีน เป็นการช่วยเกษตรกรไทยได้อีกทางหนึ่ง รวมทั้งสอนการทำสปาไทย นวดไทยได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังมีการจัด Online Training Course ผ่าน Online Learning Platform : Lu Zhi Ke ให้พนักงานขายของบริษัทนำเที่ยว สื่อมวลชน เข้ามาเรียนรู้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการขายการท่องเที่ยไทยเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ สัปดาห์ละ 1 ครั้งทุกวันจันทร์ เวลา 15.00-16.00 น ในขณะนี้มีผู้สนใจลงทะเบียนเป็นสมาชิกกว่า 500 ราย การ โดยวิดิโอนี้สามารถดูย้อนหลังได้ พร้อมกับร่วมกับบริษัท Henan CITIC ซึ่งเป็นบริษัท Wholesale รายใหญ่ของมณฑลเหอหนาน จัดกิจกรรม Online product launching เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการด้านท่องเที่ยว ไปยังกลุ่มเอเย่นต์ในเครือข่าย กลุ่มสื่อมวลชน และกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ โดยแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย จะเป็นสินค้าหลักของบริษัทที่นำเสนอในครั้งนี้ สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นอีก 1 กิจกรรม ที่ย้ำเตือนให้ประเทศไทยเป็น Top of Mind ของนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 19, 900 คน ทั้งนี้เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย และรัฐบาลจีนอนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวขายแพ็คเกจระหว่างประเทศได้ ทางททท. สำนักงานปักกิ่ง จะร่วมมือกับ Henan CITIC กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไทยในมณฑลเหอหนานต่อไป ตอกย้ำภาพจำประเทศไทย ด้าน นางจิราณี พูนนายม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานโซล กล่าวว่า ทาง ททท.โซล กำลังประเมินสถานการณ์ของโควิด-19 เนื่องจากตอนนี้ทางเกาหลีใต้เริ่มเข้าสู่การฟื้นตัว แต่ในขณะเดียวกันที่ประเทศไทยเพิ่มเริ่มมีสัญญาณดีขึ้นเมื่อไม่นาน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องของการขายแบบฮาร์ดเซลล์ แต่สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ จะเป็นการตอกย้ำภาพจำเกี่ยวกับประเทศไทย ให้คิดถึงประเทศไทย ซึ่งจะมีกิจกรรมในช่วงที่ไม่สามารถทำการขายได้ พยายามที่จะทำให้ประเทศไทยอยู่ใน Top of Mind ของคนเกาหลี ซึ่งมีการนำเสนอเรื่องอาหาร ด้วยการให้จัดอันดับเมนูที่ชอบ มาร่วมชิงรางวัลกับ ททท. สำนักงานโซล เป็นการฟื้นความจำในการเคยไปเที่ยวประเทศไทย และช่วยต่อยอดในเรื่องของอาหารไทย พร้อมกันนี้จะร่วมกิจกรรมกับร้านอาหารไทยในเกาหลี คือ ไทย ซีเล็คท์ ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเปิดทางร้านอาหารไทยในต่างประเทศรับเครื่องหมาย Thai Select การันตีรสชาติไทยแท้ ร่วมทำแคมเปญ นำเสนอรายการอาหารเป็นเมนูแนะนำ มีส่วนลด หรืออาจะเป็นการสเปเชียล ออฟเฟอร์ให้กับคนที่เข้ามาร่วม ภายใต้แคมเปญที่ ชื่อว่า อร่อยจัง เป็นการเชิญชวนคนเกาหลีไปกินอาหารไทย และรับส่วนลด เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากการจัดอันดับเมนูที่ชอบร่วมชิงรางวัลกับ ททท. โดยจะต้องดูสัญญาณที่ดีขึ้น และโควิด-19ที่คลี่คลายภายในประเทศเกาหลีด้วย นอกจากนี้ยังมีการทำแคมเปญผ่านออนไลน์ ด้วยการเชิญชวนชาวเกาหลีนำรูปภาพที่ไปเที่ยวประเทศไทย แล้วแท็คเพื่อน เพื่อดึงมาร่วมกิจกรรมกับททท.ด้วย เป็นการประชาสัมพันธ์เมืองไทยผ่านโซเชีลยเดีย ในช่วงที่โควิด-19 ยังไม่คลี่คลายในหลายๆ เมืองนั้นเอง