กาชาดตรังเช็กวุ่นที่อยู่แม่จ่าจำปา หลังถูกผู้บังคับบัญชาสอบวินัยลงโทษจำขังตัดบำเหน็จ ท้ายสุดอยู่บ้านเช่า อำเภอห้วยยอด เผยไม่ได้เป็นผู้ป่วยติดเตียง แต่ป่วยเบาหวาน ความดัน พาร์กิมสัน กาชาดฯ พร้อมให้การดูแลอย่างต่อเนื่อง ที่จังหวัดตรัง หลังจากที่ นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นางเอื้อจิตร เจริญทรัพย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง และนายอนันต์ พรหมเพียรพงศ์ นายอำเภอรัษฎา ลงพื้นที่ตรวจดูความเรียบร้อยในการทำงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านย่อย ซึ่งอยู่บนถนนสายรอง หมู่ 9 ต.หนองบัว อ.รัษฎา จ.ตรัง พื้นที่รอยต่อกับ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีฯ เพื่อกำชับให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามคำสั่งและมาตรการจังหวัดตรังอย่างเคร่งครัด โดยไม่อนุญาตให้รถและคนผ่านเส้นทางดังกล่าวอย่างไรก็ตามปรากฎว่า จ.ส.อ.พีรศักดิ์ จำปา สังกัดกองพันทหารราบที่5 ถือหนังสือรับรองการเดินทางในช่วงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ผู้บังคับบัญชาออกให้มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ประจำด่าน ขณะนั้นนายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังเดินทางมาตรวจเยี่ยมพื้นที่พบกัน จ.ส.อ.พีรศักดิ์ พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจว่่าผ่านด่านดังกล่าวไม่ได้ จะต้องไปเข้าทางด่านหลักสร้างความไม่พอใจต่อ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ และนำไปสู่การตอบโต้กันจน จ.ส .อ.พีรศักดิ์ ต้องเดินทางไปใช้ด่านหลักต่อมา จ.ส.อ.พีรศักดิ์ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนและถูกลงโทษทางวินัยโดยการ “จำขัง”เป็นเวลา 45 วัน และส่งไปฝึกที่ศูนย์ฝึกธำรงวินัย กองทัพภาค 4 (มทบ.41) และให้งดเงินบำเหน็จประจำปี 2563 ครึ่งปีหลัง นอกจากนั้นได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชา ( พ.ต.ลิขิต ชาฎา ) ตำแหน่ง ผู้บังคับกองร้อยหน่วยลาดตระเวนไกล พล.ร.5 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของทหารนายดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ที่กองบัญชาการ พล.ร.5 ต่อมาสื่อโซเชียลได้ประโคมข่าวว่า สาเหตุที่จ.ส.อ.พีรศักดิ์ ต้องการออกนอกพื้นที่มาเยี่ยมมารดาเนื่องจากมารดานอนเป็นผู้ป่วยติดเตียงนั้น ล่าสุด นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง มอบหมายให้ นางเอื้อจิตร เจริญทรัพย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรังเดินทางไปเยี่ยมมารดา จ.ส.อ.พีรศักดิ์ ซึ่งนางเอื้อจิตร ได้มีการตรวจสอบบ้านที่มารดา จ.ส.อ.พีรศักดิ์ ที่มีการแจ้งว่าอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.รัษฎา อ.เมือง ตลาดควนเมา อ.รัษฎา โรงพยาบาลตรัง และอำเภอห้วยยอด ที่สุดทราบว่าอาศัยอยู่บ้านเช่า ถนนรัชชูปการ เขตเทศบาลตำบลห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง โดยมีภรรยา และญาติให้การผู้ดูแล ต่อมา นางเอื้อจิตร เจริญทรัพย์ นายกเหล่่ากาชาดจังหวัดตรัง พร้อม นายอำพร ณ วิโรจน์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง นายวัลลภ ช่วยบำรุง ปลัดเทศบาลนครตรัง เดินทางไปยังบ้านเลขที่138/8ถนนกันตัง เขตเทศบาลนครตรัง อ.เมือง จ .ตรัง ซึ่งคาดว่าเป็นบ้านที่ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ นำนางสุการณ์ทิพย์ จำปา อายุ61ปี มาอาศัยปรากฎว่าบ้านหลังดังกล่าวไม่มีผู้อยู่อาศัยมานานกว่า2ปี จากนั้นนางเอื้อจิตร และคณะเดินทางมายังบ้านเลขที่25/6ถนนรัชชูปการ เขตเทศบาลตำบลห้วยยอด ซึ่งนางสุการณ์ทิพย์นอนพักรักษาตัวโดยมีนางกัญญาวรรณ โทธรรม ภรรยาและ นางสาวธิดา โพธิสมบัติ ญาติ เป็นผู้ดูแล นางเอื้อจิตร กล่าวว่า วันนี้ทางนายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง มอบหมายให้ทางกาชาดตรังและเดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจนางสุการณ์ทิพย์ มารดา จ.ส .อ.พีรศักดิ์ จากที่ได้สัมผัสดูแล้วมีคนมาดูแลมาให้กำลังใจกันอย่่างต่อเนื่อง ซึ่งนางสุการณ์ทิพย์รู้สึกดีใจและขอบใจ ซึ่งตนมาในบทบาทของกาชาดจังหวัดตรังเมื่อชาวบ้านมีความทุกข์ก็ลงไปเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจ และผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้ติดตามข่าวก็ให้ทางกาชาดลงมาเยี่ยมเลยให้มาเยี่ยมให้ถึงที่และให้เจอผู้ป่วยด้วยและให้กำลังใจพร้อมฝากความระลึกถึงมาด้วยว่าขอเป็นกำลังใจให้และมีสิ่งใดที่จะให้ทางจังหวัดช่วยก็ให้สามารถบอกเรามาได้ ท่านก็พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือ นางเอื้อจิตร กล่าวว่า เรื่องของความช่วยเหลือนั้นในกรณีที่คนไข้ถ้ากรณีที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงเราก็จะประสานกันและมีเจ้าหน้าที่อสม.มาดูแลเยี่ยมเยียนอยู่แล้วซึ่งในแต่ละพื้นที่จะมีจดบันทึกไว้เลยว่าในพื้นที่นี้อสม.ใครดูแลเท่าไหร่แต่ในกรณีเคสนี้เขายังไม่ได้ลงว่าเป็นผู้ป่วยติดเตียงอาจจะเป็นกรณีติดบ้านแต่กาชาดตรังก็จะเชื่อมโยงทางสาธารณสุขให้มาเยี่ยมดูแลเพราะว่าคนเราถ้าป่วยนานๆบางทีด้านจิตใจก็สำคัญเราก็จะให้เขามาดูแลในเรื่องอื่นๆทั้งการดูแลรักษาการกินยาการดูแลว่าทำยังไงให้เขามีสุขภาพที่ดีซึ่งดูแล้วนี่ครอบครัวของเขาก็พาไปในช่วงเวลาหมอนัดได้อย่างต่อเนื่องซึ่งตรงนี้ก็ให้กำลังใจเขา "จากการที่สอบถามน้องที่ดูแลนางสุการณ์ทิพย์ มันยังไม่มีอาการที่ต้องแอดมิดซึ่งได้ดูจากสภาพและได้สัมผัสสังเกตแล้วกินได้นอนหลับที่เขาแอดมิดที่ผ่านมาเพราะเขาบอกว่าเขาปวดท้องตอนนี้ก็วิกฤตนั้นผ่านไปแล้วความดัน เบาหวานและก็พาร์กินสันซึ่งดูแล้วยาก็ได้รับอย่างต่อเนื่อง "นางเอื้อจิตร กล่าว ทางด้านนางธิดา โพธิสมบัติ ญาติของภรรยาจ่าจำปา กล่าวว่า เดิมจ่าและแม่จะพักอาศัยอยู่ที่ตัวเมืองตรัง แต่เห็นว่าระยะทางไกล และจ่าต้องเดินทางไปกลับระหว่างบ้านกับที่ทำงานทุกวัน จึงย้ายมาอยู่บ้านเช่าในเขตเทศบาลตำบลห้วยยอด ซึ่งเดินทางไปทำงานได้สะดวก มาได้ประมาณ 2 ปี โดยตนเองจะช่วยจ่าและภรรยาจ่าดูแลแม่ให้ในตอนกลางวันที่ จ่าและภรรยาไปทำงาน ทั้งนี้ แม่จะติดลูกชายมาก ความจำอย่างอื่นจะจำอะไรไม่ได้ แต่จะจำได้เฉพาะเรื่องของลูกชายเท่านั้น จะคอยถามหาแต่จ่าว่ากลับจากทำงานเมื่อใด ทั้งนี้แม่ไม่ได้เป็นผู้ป่วยติดเตียง สามารถลุกขึ้นเดินได้แต่ต้องมีคนช่วยพยูงให้เดินได้เป็นบางครั้งคราว