วันที่ 20 เมษายน 2563 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการขุดลอกเปิดทางน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่คลองเปรมประชากร โดยมี ดร. สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พลตรี ไพรัช โอฬารไพบูลย์ ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน ณ หอประชุมอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะรองนายกรัฐมนตรีเดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดดำเนินโครงการขุดลอกดินตะกอนเปิดทางน้ำแม่น้ำเข้าสู่คลองเปรมประชากร บริเวณหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ตำบลบางกระสั้น อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พลเอก ประวิตร กล่าวว่า ตามแผนแม่บท โครงสร้างพื้นฐานระบบคลองและการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชาชน (พ.ศ. 2562- 2570) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารจัดการน้ำทั้งการระบายน้ำ และจัดการคุณภาพน้ำในพื้นที่คลองเปรมประชากร และโครงข่ายที่เชื่อมต่อกัน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำเสีย รวมถึงการฟื้นฟูและการพัฒนา การคมนาคมขนส่งทางน้ำตามโครงข่ายต่าง ๆ นั้น ในส่วนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่คลองเปรมประชากรอยู่ในความรับผิดชอบ ในพื้นที่อำเภอบางปะอิน ความยาว 8.8 กิโลเมตร โดยจังหวัดได้ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ บริเวณสองฝั่งคลองทั้งในส่วนของการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำเข้ามาในคลองและสิ่งกีดขวางทางน้ำ รวมทั้งการปรับปรุงคุณภาพน้ำและการขุดลอกคลองบางกระสั้นที่เชื่อมต่อกับคลองเปรมประชากรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ โดยบูรณการการทำงานร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 โดยกองพลพัฒนาที่ 1 ที่ผ่านมา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการขุดลอกดินตะกอนที่เป็นสันดอนบริเวณปากคลองบางกระสั้นซึ่งกีดขวางการไหลของน้ำ เพื่อเปิดทางน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาให้ไหลเข้าสู่คลองเปรมประชากรได้สะดวกขึ้น การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้กำชับทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการโครงการฯ ให้แล้วเสร็จตามกำหนดก่อนฤดูฝนที่จะถึงนี้ ทั้งนี้ ผลการดำเนินการหลังจากกองพลพัฒนาที่ 1 เข้าดำเนินการตั้งแต่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายในการขุดลอกให้มีความกว้าง 80 เมตร ลึก 4 เมตร ยาว 450 เมตร หรือมีปริมาณดินไม่น้อยกว่า 70,000 ลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีความก้าวหน้าโครงการร้อยละ 98 คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 30 เม.ย นี้อย่างแน่นอน และขอชื่นชมการดำเนินการบูรณการร่วมกันระหว่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและกองทัพบก โดยกองพลพัฒนาที่ 1 ดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างรวดเร็วและเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้