“มนัญญา" เตรียมใช้งบปี64 ทำสหกรณ์แก้มลิง ดึงราคาสินค้าเกษตร โปรยหาหอมสหกรณ์ ชี้ระบบที่ดีที่สุดพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่สหกรณ์การเกษตรเกษตรพิสัย จำกัด จ.ร้อยเอ็ด น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เดินทางตรวจเยี่ยมการบริหารงานสหกรณ์รวบรวมและแปรรูปผลผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ปลูกหอมมะลิคุณภาพดีของแหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศ พื้นที่ปลูกกว่า4แสนไร่ ปีนี้ประสบภัยแล้ง ทำให้ลดลงประมาณ 44% มีเกษตรกรสมาชิกกว่า9.2พันคน โดยน.ส.มนัญญา ได้ดูการทำงานโรงสี โรงอบ ลานตาก โรงบรรจุ และรับซื้อข้าวจากสมาชิก ราคาตันละ 1.6 หมื่นบาท การจำหน่ายข้าวบรรจุถุงๆ ละ 35 บาทขึ้นไป ซึ่งมีคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมากทั้งข้าวหอม ข้าวเหนียว ข้าวกล้อง ซึ่งผู้บริหารสหกรณ์ ขอให้รมช.เกษตรและสหกรณ์ ช่วยพิจารณางบประมาณดำเนินโครงการสหกรณ์แก้มลิง ชะลอผลผลิตข้าวของเกษตรกร น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ระบบสหกรณ์เป็นสิ่งที่ดีที่สุดขับเคลื่อนสินค้าเกษตรทุกชนิด ช่วยเหลือพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรได้อย่างมากและทั่วถึง ตามพระราชประสงค์ของในหลวง ร.9 ทรงให้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงไว้ให้กับคนไทย ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของสหกรณ์ ทั้งนี้จะดูงบปี2564 มาช่วยสหกรณ์เป็นแก้มลิง จะสามารถดูแลทั้งการตลาดและการผลิต ช่วยดึงราคาข้าวเปลือกให้กับชาวนา และไม่ให้ราคาข้าวสารสูงเกินไปจนกระทบผู้บริโภค สำหรับงบปี 63 กระทรวงเกษตรฯ ได้ถูกตัดงบ 10% มาใช้ในมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 โดยท่านนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยเกษตรกร ให้ไปดูแผนงานที่มีความสำคัญเพื่อให้ใช้เงินกู้ โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะรวบรวมแผนงานจากกรมต่างๆ เสนอนายกรัฐมนตรี ขอใช้งบกลางในเรื่องเร่งด่วน "ในส่วนกรมที่ดิฉันดูแล จะเสนอของบในโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ทำแหล่งน้ำให้เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ กว่า1หมื่นครัวเรือน โครงการพาลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน 7 พันกว่าราย โครงการครัวเกษตรจังหวัด นำไปสู่การแลกเปลี่ยนผลผลิตทางการเกษตรระหว่างจังหวัด และโครงการช่วยเหลือสหกรณ์ค่าขนส่งผลไม้ มังคุด กับลำไย กระจายออกจากแหล่งผลิตสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศ นอกจากนี้ประสานให้กรมฝนหลวงฯ มาทำฝนพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ในสัปดาห์หน้า เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรขาดแคลนน้ำและลงมือเพาะปลูกได้ตามฤดูกาล"รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว