ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 15 เม.ย.63 ว่า มาตรการป้องกันและควบคุมการการแพร่ระบาดของโรคโควิด 2019 ในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนที่ชาวมุสลิมทั่วโลกถือศิลอดเช่นเดียวกับคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม มีกิจกรรมอดอาหาร และอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องรวมตัวกันเป็นกลุ่มๆ หลายๆกิจกรรม ทำให้หลายฝ่ายกังวลในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิค19 โดยเฉพาะคนในพื้นที่3ชายแดนใต้ที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามมากถึง85เปอร์เซ็นต์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักจุฬาราชมนตรี ได้มีคำประกาศของจุฬาราชมนตรีเรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่าด้วย การปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1441 (พ.ศ. 2563) (ฉบับที่ 4/2563) ในห้วงวันที่ 24 หรือ 25 เมษายน -23 หรือ 24 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับเดือนรอมฎอนที่มุสลิมจะต้องปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอด และทำกิจกรรมต่างๆในเดือนสำคัญนี้ ซึ่งจะมีการรวมตัวกันเป็นหมู่คณะ ณ มัสยิด เคหสถาน หรือสถานที่ต่างๆ โดยในสถานการณ์ที่ยังมีการระบาดของเชื้อโรคอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ จึงจำเป็นต้องประกาศมาตรการเพิ่มเติม ดังนี้ 1.การดูดวงจันทร์ เพื่อกำหนดวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอนให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเท่านั้น 2.การถือศีลอดให้ถือปฏิบัติตามบทบัญญัติ ยกเว้นผู้ถือได้รับผ่อนผันตามบทบัญญัติเท่านั้น ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า มิได้เป็นอุปสรรคให้งดการถือศีลอดแต่ประการใด ตลอดจนการกลืนน้ำลายที่ไม่เจอปนเศษอาหารที่อยู่ในช่องปากมิได้ทำให้การถือศีลอดบกพร่องแต่อย่างใด กลับเป็นการรักษาร่างกายและลำคอให้ชุ่มชื้นตลอดเวลา จึงไม่ควรถ่มน้ำลายในที่สาธารณะเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้ 3. การจัดเลี้ยงอาหารละศีลอดที่มีสยิด หรือสถานที่อื่นใด หากมีความประสงค์ให้จัดอาหารปรุงสุกที่บ้านและจัดใส่ภาชนะบรรจุภัณฑ์ที่ถูกสุขลักษณะ และแจกจ่ายให้แก่เพื่อนบ้านและญาติใกล้ชิดแทนการเลี้ยงรวมกันเป็นหมู่คณะ 4. สมาชิกในครอบครัวละศีลอดหรือรับประทานอาหารซาโฮร์ก่อนหัวรุ่งร่วมกันให้หลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะร่วมกัน และให้นั่งห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร 5. งดการเอี๊ยะติก๊าฟ และการละหมดญุมอะห์ที่เป็นซุนนะห์ ประเภทต่างในค่ำคืนเดือนรอมฎอน อาทิ การละหมาดตารอเวี๊ยะ การละหมาดตะฮัจญุด และกิจกรรมอื่นๆ ทีมัสสยิดหรือสถานที่อื่น 6.คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ให้แจ้่งไปยังมัสยิดให้เข้าใจเกี่ยวกับการจ่ายซะกาซฟิตร์ และฟิตยะห์ล่วงหน้า ที่สามารถทำได้ตั้งแต่เข้าสู่เดือนรอมฎอน และให้มัสยิดเป็นผู้รวบรวมและขอให้สัปบุรุษมอบซะกาตให้กับมัสยิดเพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้เดือดร้อน สำหรับการละหมาดอีดิ้ลฟิตร์หรือวันฮารีรายอและการจัดกิจกรรมในวันฟิตร์ จะประกาศมาตรการให้ทราบต่อไป ‘ขอให้พี่น้องมุสลิมทุกคนอดทนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้ใช้โอกาสในเดือนรอมฎอนอันประเสริฐนี้ปฏิบัติศาสนกิจให้ครบถ้วนสมบูรณ์ และขอดุอา ต่อัลเลาะฮพระผู้เป็นเจ้าให้ภัยบาลาอ์ครั้งนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และให้ปฏิบัติตามประกาศทั้ง 3 ฉบับอย่างเคร่งครัดจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง’