สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ Fan Page โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุ แผนที่ดวงจันทร์ความละเอียดสูงจาก “จันทรยาน 2” จันทรยาน 2 (Chandrayaan 2) ยานสำรวจดวงจันทร์สัญชาติอินเดีย ขึ้นสู่อวกาศเพื่อสำรวจดวงจันทร์เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 มีภารกิจหลักคือการทำแผนที่ความละเอียดสูงของดวงจันทร์ เพื่อใช้พิจารณาเลือกพื้นที่ลงจอดสำหรับนักบินอวกาศและตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในอนาคต ซึ่งภาพที่ถ่ายได้จากเครื่องมือบนยานนั้นน่าสนใจอย่างมาก ดังนี้ #มองเห็นแม้กระทั่งหลุมอุกกาบาตที่แสงอาทิตย์ส่องไม่ถึง ยานอวกาศจันทรยาน 2 มีกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูง OHRC (Orbiter High-Resolution Camera) สามารถถ่ายภาพได้ความละเอียดสูงถึง 0.25 เมตรต่อพิกเซล ซึ่งสูงกว่ายาน LRO ของนาซาที่ถ่ายได้ความละเอียดเพียง 0.5 เมตรต่อพิกเซลเท่านั้น ล่าสุด เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา กล้อง OHRC สามารถเก็บภาพก้อนหินบนดวงจันทร์ที่มีขนาดเพียง 1 เมตรได้อย่างคมชัด และเก็บภาพพื้นผิวส่วนหนึ่งของหลุมอุกกาบาต “บอกุสลัฟสกี อี" (Boguslawsky E) ที่แสงจากดวงอาทิตย์ส่องไปไม่ถึง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการสร้างแผนที่บริเวณขั้วดวงจันทร์เป็นอย่างมาก เพราะบริเวณดังกล่าวแทบจะไม่มีแสงอาทิตย์ส่องไปถึงเลย #สร้างแผนที่สามมิติความละเอียดสูง ยานจันทรยาน 2 ถูกติดตั้งกล้อง TMC2 (Terrain Mapping Camera) ซึ่งสามารถสร้างแผนที่ภูมิประเทศในรูปแบบสามมิติจากการถ่ายภาพวัตถุเดียวกันในมุมมองที่ต่างกัน 3 มุม เหนือพื้นผิวดวงจันทร์ที่ระยะ 100 กิโลเมตร ด้วยกล้องความละเอียดถึง 5 เมตรต่อพิกเซล #ดวงตาอินฟราเรด ยานจันทรยาน 2 มีเครื่องมือ IIRS (Imaging Infrared Spectrometer) ใช้ในการศึกษาการกระจายตัวของแร่ธาตุและน้ำบนพื้นผิว ด้วยวิธีการตรวจวัดแสงอาทิตย์ที่สะท้อนจากผิวดวงจันทร์ แล้ววิเคราะห์ชนิดแร่ธาตุตามรูปแบบการสะท้อนที่เกิดขึ้น มีความละเอียดมากกว่ารุ่นเก่าที่ติดอยู่กับยานจันทรยาน 1 ถึงสองเท่า จากการเก็บข้อมูลของ IIRS ทำให้นักวิทยาศาสตร์เจอเบาะแสของน้ำอยู่บริเวณอื่นนอกเหนือจากบริเวณขั้วดวงจันทร์ แม้ว่าบริเวณดังกล่าวจะมีปริมาณน้อยกว่าน้ำในทะเลทรายบนโลกก็ตาม ดังนั้นจึงมุ่งเน้นให้ยานอวกาศจันทรยาน 2 สำรวจบริเวณขั้วของดวงจันทร์ต่อไป #ทราบปริมาณน้ำบนดวงจันทร์ DFSAR (Dual Frequency Synthetic Aperture Radar) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เรดาร์สร้างแผนที่ภูมิประเทศ พัฒนาต่อมาจากเรดาร์ที่ใช้ในยานจันทรา 1 แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่าถึงสองเท่า นอกจากนี้ ยังมีความละเอียดกว่าเรดาร์ที่ติดตั้งบนยาน LRO ของนาซาเป็นอย่างมาก ทำให้ยานจันทรยาน 2 สามารถวิเคราะห์น้ำแข็งที่อยู่ใต้หลุมอุกกาบาตที่ขั้วดวงจันทร์ได้ และพบว่าที่ขั้วดวงจันทร์มีน้ำแข็งมากกว่า 600,000 ล้านกิโลกรัม ซึ่งมีขนาดพอ ๆ กับสระว่ายน้ำโอลิมปิก 240,000 สระรวมกัน #เป้าหมายต่อไปในอนาคต ยานจันทรยาน 2 จะปฏิบัติภารกิจต่อไปเป็นเวลา 7 ปี ซึ่งเหล่านักวิทยาศาสตร์คาดว่าเพียงพอต่อการทำแผนที่ดวงจันทร์ รวมถึงบ่งชี้ปริมาณน้ำในแต่ละบริเวณได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ในอนาคตข้างหน้า องค์การนาซาเองก็มีแผนจะส่งรถหุ่นยนต์ VIPER ไปสำรวจน้ำในบริเวณที่แสงดวงอาทิตย์ส่องไปไม่ถึง เพื่อเป็นข้อมูลในการตั้งถิ่นฐานในอนาคตต่อไป อ้างอิง : https://www.universetoday.com/…/indias-chandrayaan-2-is-cr…/ เรียบเรียง : ฟ้าประกาย เจียรคุปต์ - เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ สดร.