กำนันย่านธัญบุรีซวย เมาขับรถหลวงชน พบว่าแอลกอฮอล์ 133มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ช่วงสงกรานต์ คู่กรณีโวยน่าจะเป็นแบบอย่างที่ดี
เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.วันที่13เม.ย.2563 ร.ต.อ.ศาสตรา สีเข็ม พงส.สภ.ธัญบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ ว่ามีเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันที่ถนนรังสิตนครนายก (ขาข้า) บริเวณแยกสัญญาณไฟจราจร พรธิสาร5หมู่ที่2ต.ลำผักกูด อ.ธัญบรี จ.ปทุมธานี จึงเดินทางตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบ รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน กฉ-5252 กทม. มีนายปฐมพงศ์ วีระโชติ อายุ 34 ปี ที่อยู่ 124/46 ม4 ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรีจ.ปทุมธานี แสตงตนเป็นผู้ขับขี่ และพบ รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ ทะเบียน นท-260 ปทุมธานี (รถตรวจการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี) มีนายสิงห์ ทองอ่อน อายุ 59 ปี ที่อยู่ 130/1ม.3ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี แสดงตนเป็นผู้ขับขี่
จากการสอบสวนคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายแล้วทราบว่าก่อนเกิดหตุ นายปฐมพงศ์ วีระโชติ ขับรถยนต์มาจากทางนครนายกมุ่งหน้ารังสิต ในช่องทางที่ 2เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นจุดกลับรถแยกสัญญาณไฟและไฟสีเหลืองจึงได้แตะเบรกหยุดรถแต่เบรกไม่อยู่เนื่องจากสภาพถนนลื่นมีฝนตกเป็นเหตุให้รถไถลไปเฉี่ยวชนกับรถยนต์กระบะของนายสิงห์ ทองอ่อน คู่กรณีซึ่งได้สัญญาณไฟเชียวและกำลังจะกลับรถเพื่อมุ่งหน้าไปทางรังสิต ซึ้งจากการเฉียชนเป็นเหตุให้รถทั้ง2 คันได้ดรับความเสียหาย จากอุบัติเหตุดังกล่าวพิจารณาแล้วจึงชี้ว่า เกิดจากความประมาทของนายปฐมพงศ์ วีระโชติ ที่ขับโดยประมาทขับรถไม่ใช้ความระมัดระมัดไม่สามารถบังคับรถให้หยุดได้เป็นเหตุเฉี่ยวชนกันมีทรัพย์ สินเสียหาย ซึ่งนายปฐมพงศ์ วีระโชติ ยอมรับว่าตนเองเป็นฝ่ายประมาท และคู่คณียินยอมให้พนักงานสอบสวนทำการเปรียบเทียบปรับ จึงทำการเปรียบปรับเป็นจำนวนเงิน 400บาท ตามคดีปรียบเทียบที่ 293/63 ลง 13 เมย.63 เล่มที่065717 เลขที่ 046
นายปฐมพงศ์ วีระโชติ ผู้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เปิดเผยว่า หลังจากปิดร้านทำป้ายโฆษณาของตนเองแล้ว ตนเองได้ขับรถมาจากคลอง10 ถนนรังสิต-นครนายก จะเดินทางกลับบ้านพักย่านรังสิต พอมาถึงบริเวณแยกสัญญาณไฟจราจร พรธิสาร5 สัญญาณไฟเหลืองตนเองเลยจึงได้แตะเบรกหยุดรถแต่เบรกไม่อยู่เนื่องจากสภาพถนนลื่นมีฝนตกเป็นเหตุให้รถไถลไปเฉี่ยวชนกับรถยนต์กระบะของนายสิงห์ ทองอ่อน จึงลงไปตรวจดูสภาพรถ พบนายสิงห์ ทองอ่อน ลงจากรถมา ดูจากท่าทางอาการน่าจะมึนเมา เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวไปที่โรงพักทั้งคู่เพื่อทำการเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งผลจากการเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ของตนเองเป็น 0 เนื่องจากตนเองไม่ได้ดื่มมา แต่ของนายสิงห์ ทองอ่อนพบว่าปริมาณแอลกอฮอล์ 133มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ตามที่กฎหมายกำหนด โดยตนเองไม่ได้ติดใจเรื่องคดีความเรื่องค่าเสียหายจากรถที่เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้เพราะรถของตนเองมีประกันภัย
แต่ตนเองติดใจว่า นายสิงห์ ทองอ่อน ทราบภายหลังว่าเป็นกำนัน อยู่ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี แถมเอารถทางราชการมาขับเวลาเมาอีก ถ้าเกิดความสูญเสียขึ้นในครั้งนี้ จากการที่กำนันสิงห์ เมาขณะขับรถ เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้ เป็นสถานการณ์ที่ผู้นำชุมชนต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ทำตามนโยบายรัฐบาลให้หยุดดื่มช่วงสงกรานต์เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แต่ผู้นำชุมชนกลับมาทำเสียเอง ยังดีที่มีพี่ผู้สื่อข่าวอยู่ในเหตุการณ์ด้วยไม่อย่างนั้น คงจะไม่ยอมตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แน่ๆต้องยอมรับกันตรง ๆ ว่า การเมาแล้วขับเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นในเมืองไทยมายาวนานโดยเฉพาะช่วงเทศกาล นี่คนของรัฐมาปฎิบัติอย่างนี้เสียเอง ตนเองจึงอยากฝากไปถึงผู้มีอำนาจ หรือผู้บังคับบัญชา ให้เข้มงวดกวดขันให้มากกว่านี้ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์สูญเสียครั้งใหญ่เนื่องจากการเมาแล้วขับ พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหานายสิงห์ ทองอ่อน เมาแล้วขับส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




