ช่างสิบหมู่ร่วมกับศิลปาชีพเกาะเกิด-สีบัวทอง จัดสร้างสมุดข่อยปาฏิโมกข์ หนึ่งในเครื่องสังเค็ดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.9 ใช้ต้นแบบวัดบวรฯ เขียนอักษรขอมบาลี เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 60 นายสมชาย ศุภลักษณ์อำไพพร นายช่างศิลปกรรมอาวุโส กลุ่มงานศิลปประยุกต์และเครื่องเคลือบดินเผา สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กล่าวว่า สำนักช่างสิบหมู่ได้ร่วมกับศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด จ.พระนครศรีอยุธยา และศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง จ.อ่างทอง ดำเนินการจัดสร้างสมุดปาฏิโมกข์ หนึ่งในชุดประกอบเครื่องสังเค็ดสำหรับถวายแด่พระภิกษุที่มาร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายหลังจากที่ได้การหารือร่วมกับท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ สำนักราช เลขาธิการ ที่ต้องการให้มีการจัดสร้างสมุดปาฏิโมกข์ครั้งนี้เป็นครั้งพิเศษ โดยเห็นว่าศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิดสามารถผลิตสมุดไทยจากกระดาษข่อย ซึ่งเป็นแห่งที่สองในประเทศที่ได้มีการสืบทอดการทำสมุดข่อยตามแบบโบราณไว้ นอกจากวิทยาลัยในวัง กล่าวได้ว่ามีการสืบสานและฟื้นฟูการทำสมุดข่อยขึ้นมาใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 9 จากนั้นจึงประสานงานกับพระโสภนคณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ในการนำต้นแบบของสมุดปาฏิโมกข์มาใช้ดำเนินการ ก่อนจะมอบหมายให้ศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิดเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในการผลิตกระดาษข่อยทำหัวโขน การเขียนอักษรโบราณและงานจิตรกรรม นายสมชาย กล่าวอีกว่า สาเหตุที่เลือกใช้กระดาษข่อย เพราะมีอายุการใช้งานยาวนาน ไม่ถูกทำลายจากแมลงได้ง่าย ในอดีตใช้กระดาษข่อยบันทึกเรื่องราวเป็นอักษร เช่น พระไตรปิฎก สมุดปาติโมกข์ สมุดพระมาลัย นิทานชาดก ตำราช้าง ม้า โค กระทั่งตำรานวด โดยได้ดำเนินการวัดแบบและขนาดของสมุดข่อยปาฏิโมกข์ของวัดบวรนิเวศวิหาร โดยมี อ.สุดสาคร ชายเสม เป็นผู้ออกแบบหน้าปกสมุดข่อยเป็นลายรดน้ำ ตรงกลางเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ใจกลางประดับพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ถัดมาเป็นลายก้านขด ส่วนปลายเป็นลายพุ่มข้าวบิณฑ์ บริเวณมุมของสมุดเป็นลายเถาก้านขดออกเป็นหน้าครุฑ แสดงถึงราชพาหนะของพระมหากษัตริย์ ตรงขอบเป็นลายสังเวียน สันสมุดปิดทองคำเปลว 100% โดยรอบ ปกหน้าและปกหลังเป็นลวดลายเดียวกัน ขนาดยาว 31.5 ซม. กว้าง 11.2 ซม. หนา 37 พับ ในสมุดเขียนอักษรขอม จารึกเรื่องราวของบทปาฏิโมกข์สำหรับพระภิกษุจำนวน 40 วัด จากเดิมที่กำหนดไว้ 39 วัด แต่ล่าสุดได้เพิ่มวัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร ถือเป็นวัดที่ได้มีการสวดพระปริตรในงานพระราชพิธีสำคัญต่างๆ และยังจัดทำเพื่อจัดเก็บไว้ในพพิพิธภัณฑ์อีก 1 เล่ม รวมทั้งหมด 41 เล่ม "ล่าสุดได้จัดทำสมุดข่อยเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการเขียนปก พร้อมกับการเขียนตัวอักษรขอมโดยมีครู และอาสามัครที่มีความเชี่ยวชาญด้านการอ่านและเขียนภาษาขอม จำนวน 2 คน ซึ่งการเขียนยึดรูปแบบของวัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีเจ้าหน้าที่อักษรโบราณของกรมศิลปากรตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง การนำต้นแบบของวัดบวรฯ มาใช้ เพราะวัดแห่งนี้ถือเป็นวัดประจำรัชกาล ในหลวง ร.9 ทรงมีความผูกพัน อีกทั้งพระบรมราชสรีรางคารจะนำไปบรรจุที่วัดนี้ อีกทั้งยังมีความผูกพันกับสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมดคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 50" นายสมชาย กล่าว ด้าน พลเรือเอก สำเภา พลธร ผู้ดูแลศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด และศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง กล่าวว่า แผนกนักเรียนศิลปาชีพเกาะเกิด และศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทองได้รับมอบหมายจากสำนักพระราชวังให้ดำเนินโครงการจัดสร้างสมุดปาฏิโมกข์ เป็นหนึ่งในชุดประกอบเครื่องสังเค็ด ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวจะใช้เพื่อถวายแด่พระที่มาร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จำนวน 41 เล่มโดยการทำงานมีนักเรียนศิลปาชีพทั้ง 2 แห่ง มาช่วยปฏิบัติงาน ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนยากจนจากอ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ที่ได้รับการฝึกวิธีการทำกระดาษข่อยจากทายาทตระกูลเก่าแก่ที่ทำกระดาษข่อยมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 "คณะทำงานศิลปาชีพเกาะเกิดและสีบัวทองประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูการทำกระดาษข่อยเมื่อปลายปี 58 มีการค้นคว้าข้อมูลทางวิชาการจากเอกสารหลักฐานที่มีบันทึกไว้ และควานหาบุคคลที่มีประสบการณ์ผลิตข่อยสืบต่อกันมา รวมถึงทดลองปลูกต้นข่อยในพื้นที่เพื่อเป็นวัตถุดิบทำกระดาษข่อย สำหรับกรรมวิธีการผลิตเป็นภูมิปัญญาไทยโบราณมีมาก่อนกระดาษ เอ 4 จะเกิดขึ้น คุณสมบัติของกระดาษข่อยมีความเบาและแกร่ง เมื่อในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต นักเรียนศิลปาชีพพร้อมใจถวายงานสร้างสมุดปาฏิโมกข์ ทุกขั้นตอนตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ทุกคนคิดถึงในหลวง ร.9” ด้าน นายชาย มีจำรัส ครูพิเศษศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด กล่าวว่า ตนเป็นผู้ดูแลการเขียนอักษรลงในสมุดข่อย เป็นอักษรขอม บาลีปาติโมกข์ โดยใช้ทักษะด้านศิลปะมาประยุกต์ใช้กับการเขียนตัวอักษร สมุดข่อย 1 เล่ม มีจำนวน 60 หน้า 30 พับ ใช้เวลาในการเขียนอักษรประมาณ 1 เดือน ต่อ 1 เล่ม โดยขณะนี้ได้คัดเลือกเยาวชนจากศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง จ.อ่างทอง และเจ้าหน้าที่จากสำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร มาทดลองฝึกเขียนอักษรขอมบาลีปาติโมกข์ ผู้เขียนต้องมีทักษะในการใช้ปากกาสปีดบอลล์หรือปากกาหัวตัด เพื่อเขียนเป็นตัวอักษรแบบชุบย่อ มีลักษณะซ้อน 2 ชั้นต่างจากการเขียนหนังสือปกติ คาดว่าการเขียนอักษรลงในสมุดทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในเดือน กันยายนนี้