เผยไทยเน้นค้นหาเชิงรุก ใช้อสม.เป็นกลไกสำคัญที่แตกต่างจากชาติอื่น ระบุตัวเลขติดเชื้อใหม่วันนี้ลดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ แต่ยังประมาทไม่ได้ โดยเฉพาะการติดเชื้อในบ้าน-ที่ทำงาน พร้อมเร็วๆ นี้ เตรียมผุดรพ.สนามอีกแห่งที่บางซื่อ เยียวยากลุ่มหมอนวดสุขภาพทั้งที่ขึ้นทะเบียนและไม่ขึ้นทะเบียน เมื่อวันที่ 12 เม.ย.63 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กล่าวว่า อาสาสมัครสาธารณสุข หรืออสม.1 ล้านสี่หมื่นคน และอสส.ในกทม. 1.5 หมื่นคน ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคโควิด-19 ในการช่วยดูแลติดตามเฝ้าระวังโรคโควิดในพื้นที่ ด้วยการเคาะประตูบ้าน โดยเริ่มตั้งแต่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา สามารถติดตามพบกลุ่มเสี่ยงทั้งที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และจากกลุ่มเสี่ยงสนามมวย สถานบันเทิงต่างๆ ถือเป็นผลงานที่ประจักษ์ของอสม.ในการช่วยดูแลเฝ้าระวังโรคโควิดในพื้นที่ด้วยแรงกายแรงใจ นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า จากที่มีคำถามว่า ทำไมไทยตรวจแล็บน้อย ด้วยไทยได้เน้นค้นหาเชิงรุกเป็นสำคัญ อสม.ซึ่งเป็นกลไกที่หาได้ยากในประเทศอื่น โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ทำมานาน ทำให้การแก้ปัญหาและป้องกันโรคโควิดในครั้งนี้ได้ผล นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกต รองอธิบดีกรมสบส.กล่าวว่า แม้จากสถานการณ์ปัจจุบัน จะดีขึ้น พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงตามลำดับ แต่ยังต้องเน้นย้ำ การเว้นระยะห่าง ซึ่งในช่วงสงกรานต์นี้รณรงค์ทุกชุมชนงดสงกรานต์ งดเดินทางกลับ สืบสานประเพณีโดยสรงน้ำพระในบ้านแทน กราบขอพรทางมือถือ หรือห่าง 2 เมตร นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรคติดต่อกล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่พบผู้ป่วยใหม่ ต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ถือว่าการป้องกันของไทยทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ยังประมาทไม่ได้ เพราะยังแพร่เชื้อได้ง่าย ถ้ามีคนป่วยไม่ป้องกันหรือคนที่แข็งแรงดีแต่ไม่ได้ใส่หน้ากากไปใกล้คนป่วย ซึ่งพบว่า33 คนที่ติดเชื้อใหม่ 15 คนได้รับเชื้อจากผู้ป่วยเดิมที่เฝ้าระวังอยู่ เกินครึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัว จึงมีคำแนะนำเพิ่มเติม ถ้ามีคนป่วยโรคทางเดินหายใจในครอบครัวที่ทำงาน ต้องระวังทันที เพราะอาการใกล้เคียงกัน กับโรคโควิด แนะให้ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง โดยพบผู้สูงอายุที่เสียชีวิตอายุเกิน 70 ปี มีมากถึง 10% นพ.ธเรศกล่าวว่า จากมาตรการความพร้อมของไทยในการป้องกันโรค ถ้าอยู่ในระดับนี้คนป่วยน่าจะคงที่และลดน้อยลง แนะนำให้ประชาชนอย่าประมาทให้คงมาตรฐานที่รัฐแนะนำไว้ อย่างไรก็ตาม ได้ประสานกับโรงพยาบาลเอกชน จัดเตรียมเตียงหากสถานการณ์เดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นอีก และกำลังจะขึ้นโรงพยาบาลสนามอีก 1 แห่งที่บางซื่อ คาดจะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้ ขณะที่การรักษาหากป่วยโควิด สามารถไปรักษาได้ทุกที่โดยไม่ต้องเสียเงิน สำหรับกลุ่มนวดแผนไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด มี 2 กลุ่มใหญ่ ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมสบส.และสาธารณสุขขังหวัดพบมีแสนกว่าคน และมีที่ยังไมขึ้นทะเบียน ซึ่งที่ขึ้นทะเบียนมี 2 กลุ่ม ที่เข้าประกันสังคม ได้สิทธิประกันสังคม ไม่เกิน 7.5 พันบาท/คน กลุ่มที่ 2 ขึ้นกับกรมสบส ไม่มีประกันสังคม จะได้เยียวยา 5,000 บาท ได้ส่งชื่อให้กระทรวงการคลังไปชุดหนึ่งแล้ว ยังเหลือกลุ่มนวดที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน ได้ให้รวบรวมข้อมูลอยู่เพื่อส่งให้กระทรวงการคลัง