คร่ารายล่าสุดหญิงไทยวัย 43 ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง ยอดดับแล้ว 33 ขณะผู้ติดเชื้อรายใหม่ กลุ่มใหญ่ยังติดจากผู้ป่วยก่อนหน้า 27 ราย ขณะชาวต่างขาติวันนี้ไม่มีนำเชื้อเข้า มีแต่คนไทยกลับจากนอกพร้อมเชื้ัอ 3 ติดจากตลาด ห้าง ที่ชุมชนอีก 3 ขณะบุคลากรการแพทย์ติดเพิ่มอีก 4 ภูเก็ตอีก 8 เมื่อวันที่ 10 เม.ย.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)แถลงถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า ล่าสุด ข้อมูลในวันนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยมีผู้ป่วยเพิ่ม 50 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดเสียชีวิตสะสม 33 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 2,473 ราย หายป่วยกลับบ้านได้เพิ่มขึ้น 73 ราย รวมยอดรักษาหาย 1,013 ราย และยังรักษาตัวในรพ. 1,427 ราย สำหรับผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ หญิงชาวไทย อายุ 43 ปี อาชีพค้าขาย มีโรคประจำตัวคือ SLE หรือแพ้ภูมิตัวเอง ได้รับการรักษา วันที่ 6 เม.ย.ที่ จ.ฉะเชิงเทรา แรกรับหายใจหอบเหนื่อย พบปอดอักเสบรุนแรง และเสียชีวิต 7 เม.ย. แต่ผลแล็บเพิ่งออกมาเมื่อวานนี้ (9 เม.ย.) ขณะที่ผู้ป่วยรายใหม่ 50 ราย จำแนก ได้ดังนี้ 1.ผู้ป่วยรายใหม่ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 50 ราย -ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 27 ราย โดยเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในกทม.11ราย ยะลา 7 ราย รวม 27 ราย -ผู้ป่วยอื่นๆ ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ป่วยก่อนหน้า 15 ราย แบ่งเป็น คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 3 ราย / ไปสถานที่ชุมนุมชน ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 3 ราย / อาชีพเสี่ยง หรือทำงานใกล้ชิดสัมผัสชาวต่างชาติ 5 ราย / บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 4 ราย -อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ( จากการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงในจังหวัดภูเก็ต 4 ราย) รวม 8 ราย 2. ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า state quarantines (สะสมอยู่ที่ 47) และยังอยู่ในรพ.1,427 ราย