กู้ชีพฮุก.31 บุคลากรทางการแพทย์ อ.โชคชัย นครราชสีมา ผวาโควิด รับผู้ป่วยเสี่ยงสูงก่นด่าญาติปิดบังความจริง ต้องปิดจุดบริการ ห้องฉุกเฉิน รพ.โชคชัย รอผลตรวจ
คนบ้านกระโทก อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ผวาโควิด-19 อีกครั้งหลังพบผู้ติดเชื้อรายที่ 7 หญิงอายุ 47 ปี พนักงานบริการผับแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท กรุงเทพ ฯ ภูมิลำเนา บ้านท่าอ่าง หมู่ 3 ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย จากนั้นได้แพร่เชื้อต่อคนในครอบครัวเดียว ทั้งแม่ ลูกสาวและหลานสาว ติดเชื้อรวมทั้งหมด 4 ราย ต่อมาสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา ได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมอย่างเข้มข้น โดยร้องขอให้กักตัวอยู่ในบ้านพัก 14 วัน แต่ยังมีการลักลอบออกไปพบปะผู้คนในละแวกหมู่บ้าน นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ต้องใช้มาตรการทางสังคมออกคำสั่งให้ปิดหมู่บ้านดังกล่าวเป็นเวลา 14 วัน และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การดูแลอาหาร น้ำดื่ม รวมทั้งลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ
ล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 10 เมษายน นายพิสิษฐ์ พงษ์ศิริศุภกุล รองประธาน มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา ปฏิบัติหน้าที่ดูแล รับผิดอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฮุก.31 เปิดเผยว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ (9 เม.ย ) ศูนย์สั่งการระบบการแพทย์ฉุกเฉิน สายด่วน 1669 ได้ประสานผ่านโรงพยาบาลโชคชัยร้องขอให้อาสาสมัครกู้ชีพฮุก.31 นครราชสีมา จุด อ.โชคชัย จัดกำลังออกรับผู้ป่วยเป็นชาย อายุ 52 ปี มีอาการเหนื่อยอ่อนเพลียที่บ้านกุดโบสถ์ หมู่ 2 ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย เพื่อความปลอดภัยของอาสาสมัครที่ออกปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีเพียงหน้ากากอนามัยและถุงมือในการป้องกันการติดเชื้อ จึงได้สอบถามตามระบบได้รับการยืนยันไม่พบความเสี่ยงรวมทั้งสอบถามญาติ ยืนยันผู้ป่วยรายนี้ไม่มีไทม์ไลน์เป็นกลุ่มเสี่ยงแต่อย่างใด แต่ผลการตรวจเบื้องต้นมีไข้ขึ้นสูงและปอดอักเสบ ในขณะแพทย์ พยาบาลกำลังเตรียมการรักษา ได้มีญาติอีกคนมาแจ้งว่า ผู้ป่วยได้ออกไปกินเหล้าที่บ้านท่าอ่าง หมู่ 3 พื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ต้องสอบสวนโรคติดเชื้อโควิดหรือเข้าข่าย PUI บุคลากรทางการแพทย์แสดงความไม่พอใจกับการปกปิดข้อมูลความเป็นจริงและรีบเคลื่อนย้ายผู้คนที่อยู่ในห้องฉุกเฉินออกทันที
จากนั้นได้ประสานให้ รพ.มหาราช นครราชสีมา จัดกำลังเจ้าหน้าที่สวมชุดป้องกันเชื้อโรคพร้อมนำแคปซูลมารับผู้ป่วยรายนี้ไปตรวจหาเชื้อตามกระบวนการ นอกจากนี้ได้ปิดกั้นบริเวณพื้นที่ห้องฉุกเฉิน เพื่อรอการฉีดพ่นฆ่าเชื้อและอาสากู้ชีพจุด อ.โชคชัย รวม 4 คน บุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกักตัวเอง จนกว่าจะทราบผลการตรวจหาเชื้อ
อย่างไรก็ตามสำนักงานใหญ่หน่วยกู้ภัยฮุก.31 นครราชสีมา ได้สั่งการให้ปิดจุดบริการ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางแยกโชคชัยและให้อาสาสมัครกักตัวเองตามกระบวนการเฝ้าระวัง ในระหว่างนี้ได้จัดส่งอาหาร น้ำดื่ม พร้อมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจต่อไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 10 เมษายน นายพิสิษฐ์ พงษ์ศิริศุภกุล รองประธาน มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา ปฏิบัติหน้าที่ดูแล รับผิดอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฮุก.31 เปิดเผยว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ (9 เม.ย ) ศูนย์สั่งการระบบการแพทย์ฉุกเฉิน สายด่วน 1669 ได้ประสานผ่านโรงพยาบาลโชคชัยร้องขอให้อาสาสมัครกู้ชีพฮุก.31 นครราชสีมา จุด อ.โชคชัย จัดกำลังออกรับผู้ป่วยเป็นชาย อายุ 52 ปี มีอาการเหนื่อยอ่อนเพลียที่บ้านกุดโบสถ์ หมู่ 2 ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย เพื่อความปลอดภัยของอาสาสมัครที่ออกปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีเพียงหน้ากากอนามัยและถุงมือในการป้องกันการติดเชื้อ จึงได้สอบถามตามระบบได้รับการยืนยันไม่พบความเสี่ยงรวมทั้งสอบถามญาติ ยืนยันผู้ป่วยรายนี้ไม่มีไทม์ไลน์เป็นกลุ่มเสี่ยงแต่อย่างใด แต่ผลการตรวจเบื้องต้นมีไข้ขึ้นสูงและปอดอักเสบ ในขณะแพทย์ พยาบาลกำลังเตรียมการรักษา ได้มีญาติอีกคนมาแจ้งว่า ผู้ป่วยได้ออกไปกินเหล้าที่บ้านท่าอ่าง หมู่ 3 พื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ต้องสอบสวนโรคติดเชื้อโควิดหรือเข้าข่าย PUI บุคลากรทางการแพทย์แสดงความไม่พอใจกับการปกปิดข้อมูลความเป็นจริงและรีบเคลื่อนย้ายผู้คนที่อยู่ในห้องฉุกเฉินออกทันที
จากนั้นได้ประสานให้ รพ.มหาราช นครราชสีมา จัดกำลังเจ้าหน้าที่สวมชุดป้องกันเชื้อโรคพร้อมนำแคปซูลมารับผู้ป่วยรายนี้ไปตรวจหาเชื้อตามกระบวนการ นอกจากนี้ได้ปิดกั้นบริเวณพื้นที่ห้องฉุกเฉิน เพื่อรอการฉีดพ่นฆ่าเชื้อและอาสากู้ชีพจุด อ.โชคชัย รวม 4 คน บุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกักตัวเอง จนกว่าจะทราบผลการตรวจหาเชื้อ
อย่างไรก็ตามสำนักงานใหญ่หน่วยกู้ภัยฮุก.31 นครราชสีมา ได้สั่งการให้ปิดจุดบริการ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางแยกโชคชัยและให้อาสาสมัครกักตัวเองตามกระบวนการเฝ้าระวัง ในระหว่างนี้ได้จัดส่งอาหาร น้ำดื่ม พร้อมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจต่อไป