จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไป ด้วยการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มีการประเมินถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยในปี 2563 น่าจะลดลงเหลือเพียง 18 ล้านคน หรือลดลง 54.6% พร้อมกันนี้น่าจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงเศรษฐกิจไทย ที่มีการการคาดการณ์ปรับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ลงจาก 2.7 % เหลือ -0.8 % โดยมีแนวโน้มที่สถานการณ์จะกลับมาฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 4
ซึ่งหากพิจารณาประเทศที่ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุด โดยดูจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่มีสัดส่วนของธุรกิจการท่องเที่ยวในจีดีพี นั้นๆ โดยอ้างอิงตัวเลขตามรายงานของสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ในปี 2561 สร้างเม็ดเงินให้กับเศรษฐกิจโลกประมาณ 8.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 10.4% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดของโลก
แต่เมื่อนำสัดส่วนของธุรกิจการท่องเที่ยวในจีดีพีมาเปรียบเทียบ พบว่า ประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก คือ ประเทศไทย โดยคิดเป็น 22% ของจีดีพีของประเทศ รองลงมาก็คือฟิลิปปินส์ ที่ 21% ตามมาด้วยเม็กซิโก 16.1% สเปน 14.9% และอันดับห้า อิตาลี ที่ 13% อันดับหก ประเทศจีน ที่ 11% อันดับเจ็ด ออสเตรเลีย 11% อันดับแปด เยอรมนี 10.7% อันดับเก้า สหราชอาณาจักร 10.5% และอันดับสิบ อาร์เจนตินา 10.2%
ถ้าหากพิจารณาตามขนาดเศรษฐกิจของประเทศ ลำดับของประเทศที่มีรายได้สูงที่สุดจากการท่องเที่ยว อ้างอิงตัวเลขจากปี 2561 ที่จะได้รับผลกระทบจากการหยุดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงการระบาดของโควิด-19 นี้ พบว่า อันดับหนึ่งคือ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีรายได้จาการท่องเที่ยวสูงถึง 214.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมา คือ สเปน 81.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับสามคือฝรั่งเศส 65.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับสี่คือประเทศไทย 63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และอันดับห้าคือ สหราชอาณาจักร 51.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับหก อิตาลี 49.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับเจ็ด ออสเตรเลีย 45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับแปด เยอรมนี 43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับเก้า ญี่ปุ่น 32.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และอันดับสิบมาเก๊า 40.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ