ตำรวจขอนแก่นรวบแล้ว มือยิงหนุ่มรับเหมาตายคาวงเหล้า เจ้าตัวสารภาพสิ้นถูกผู้ตายถือมีดมาฟันบ้าน พร้อมท้าทายให้มีเรื่อง ด้วย ด้วยความโมโหตามไปถึงที่
ความคืบหน้าคดีเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายวงศกร สีแตง อายุ 37 ปี ชาวบ้านเหล่านาดี ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น เสียชีวิตที่บ้านกลางทุ่งนา เมื่อเวลาประมาณ 00.15 น. วันที่ 5 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา สภาพนอนหงาย ไม่สวมเสื้อ หน้าอกมีรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืน โดยทางตำรวจได้ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนมาอย่างต่อเนื่อง ตามข่าวที้ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที 9 เม.ย.2563 พ.ต.อ.ประวิทย์ โทหา ผกก.สภ.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการควบคุมตัวนายประภาส ลีปาน อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 ม.6 ต.หนองแวง อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น จับกุมตัวได้ที่ริมแม่น้ำชี บ้านหนองหญ้าข้าวนก อ.พระยืน จ.ขอนแก่น มาทำทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุที่เถียงนาบ้านเหล่านาดี ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น และบ้านของผู้ต้องหา ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบวางกำลังโดยรอบเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ใดๆ
โดยนายประภาส ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุจริง เนื่องจากก่อนเกิดเหตุ นายวงศกร ซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่บ้านว่าเป็นคนอันธพาล ชอบหาเรื่องคนไปทั่ว บุกมาถึงบ้านพร้อมกับถืออาวุธมีดมาฟันบ้านและข้าวของที่อยู่ภายในบ้านได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยขณะนั้นไม่มีใครอาศัยอยู่ภายในบ้าน แล้วนายวงศกรก็ได้กลับไปที่เถียงนาซึ่งอยู่ห่างจากบ้านตนเองประมาณ 100 เมตร ก่อนจะเดินกลับมาอีกรอบพร้อมมีดดวงเดิม ซึ่งภรรยาของตนเดินทางกลับมาที่บ้านพอดี นายวงศกรจึงโวยวายด่าว่าตนเองไปต่อไฟจากหม้อแปลงไฟฟ้า ขโมยไฟหลวงไปใช้จนทำให้ไฟตก ภรรยานายประภาสจึงรีบโทรศัพท์หาผู้ต้องหาและบอกว่านายวงศกร เมาอาละวาดทำลายข้าวของ
"ขณะที่ผมกำลังคุยโทรศัพท์กับภรรยานั้น นายวงศกร ได้พูดแทรกมาในโทรศัพท์ท้าทายให้มีเรื่องด้วย ด้วยความโมโหจึงนำปืนแก๊บยิงนกของตนเองเดินไปหานายวงศกรที่กำลังนั่งดื่มสุราและรับประทานอาหารที่เถียงนาจุดเกิดเหตุ เพื่อจะถามว่าทำอาละวาดบ้านตนเองทำไม โดยนายวงศกรได้ลุกขึ้นพร้อมพูดท้าทายและเอามือไปที่ด้านหลังลักษณะเหมือนจะเอาปืนออกมา จึงยิงสวนลอดรั้วเข้าไปถูกกลางอกของนายวงศกรล้มฟลุบลงกับพื้นก่อนจะหลบหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดเตรียมไว้หลบหนีห่างจากเถียงนาประมาณ 300 เมตร"
พ.ต.อ.ประวิทย์ กล่าวว่า ตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน และจะคุมตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดขอนแก่นฝากขังตามขั้นตอนต่อไป
โดยนายประภาส ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุจริง เนื่องจากก่อนเกิดเหตุ นายวงศกร ซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่บ้านว่าเป็นคนอันธพาล ชอบหาเรื่องคนไปทั่ว บุกมาถึงบ้านพร้อมกับถืออาวุธมีดมาฟันบ้านและข้าวของที่อยู่ภายในบ้านได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยขณะนั้นไม่มีใครอาศัยอยู่ภายในบ้าน แล้วนายวงศกรก็ได้กลับไปที่เถียงนาซึ่งอยู่ห่างจากบ้านตนเองประมาณ 100 เมตร ก่อนจะเดินกลับมาอีกรอบพร้อมมีดดวงเดิม ซึ่งภรรยาของตนเดินทางกลับมาที่บ้านพอดี นายวงศกรจึงโวยวายด่าว่าตนเองไปต่อไฟจากหม้อแปลงไฟฟ้า ขโมยไฟหลวงไปใช้จนทำให้ไฟตก ภรรยานายประภาสจึงรีบโทรศัพท์หาผู้ต้องหาและบอกว่านายวงศกร เมาอาละวาดทำลายข้าวของ
"ขณะที่ผมกำลังคุยโทรศัพท์กับภรรยานั้น นายวงศกร ได้พูดแทรกมาในโทรศัพท์ท้าทายให้มีเรื่องด้วย ด้วยความโมโหจึงนำปืนแก๊บยิงนกของตนเองเดินไปหานายวงศกรที่กำลังนั่งดื่มสุราและรับประทานอาหารที่เถียงนาจุดเกิดเหตุ เพื่อจะถามว่าทำอาละวาดบ้านตนเองทำไม โดยนายวงศกรได้ลุกขึ้นพร้อมพูดท้าทายและเอามือไปที่ด้านหลังลักษณะเหมือนจะเอาปืนออกมา จึงยิงสวนลอดรั้วเข้าไปถูกกลางอกของนายวงศกรล้มฟลุบลงกับพื้นก่อนจะหลบหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดเตรียมไว้หลบหนีห่างจากเถียงนาประมาณ 300 เมตร"
พ.ต.อ.ประวิทย์ กล่าวว่า ตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน และจะคุมตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดขอนแก่นฝากขังตามขั้นตอนต่อไป