นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ผ่านมา ว่า ทางครม.ได้เห็นชอบในหลักการให้ลูกจ้างในสถานประกอบการโรงแรม ที่พัก ซึ่งอยู่ในระบบประกันสังคม ได้รับการเยียวยาชดเชยจากกองทุนประกันสังคมตามเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนดทุกกรณี ทั้งกรณีการถูกสั่งปิดโดยรัฐ และผู้ประกอบธุรกิจปิดกิจการชั่วคราวด้วยตัวเองจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยที่ประชุมครม.มีความเห็นตรงกันว่าเป็นเหตุอันสุดวิสัย สามารถเข้าเกณฑ์การได้รับการชดเชยได้ ซึ่งทางกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม จะรับไปดำเนินการในขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ในปัจจุบันมีบางจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งปิดกิจการโรงแรมชั่วคราว ทำให้ลูกจ้างสามารถไปรับเงินชดเชยการว่างงานจากกองทุนประกันสังคมได้ ขณะที่บางจังหวัด รัฐยังไม่ได้สั่งปิดกิจการชั่วคราว แต่โรงแรมทำธุรกิจต่อไม่ได้ เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวหรือแขกเข้าพัก ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่จะได้รับสิทธิ์เงินชดเชยจากกองทุนประกันสังคมเช่นกัน โดยทางเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งร่วมประชุม ครม.ก็ได้ยืนยันว่าโรคระบาดเป็นเหตุสุดวิสัย พร้อมกันนี้ นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในสัปดาห์หน้าทางกระทรวงฯจะเสนอขอให้ลูกจ้างในธุรกิจนำเที่ยวที่ต้องปิดกิจการชั่วคราว ได้รับเงินชดเชยการว่างงานจากกองทุนประกันสังคมด้วย รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยวทั้งหมด ก็จะมีการผลักดันให้คนในระบบประกันสังคมได้รับการดูแล สำหรับแนวทางการชดเชยที่ผ่านมา ทางครม.ได้เห็นชอบแนวทางการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานตามร่างกฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัย แยกเป็น 2 กรณี คือ ตามข้อ 3 วรรคหนึ่ง กำหนดให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานตามมาตรา 79/1 มีสิทธิได้รับเงินทดแทนในกรณีว่างงานในอัตรา 62% ของค่าจ้างรายวัน โดยให้ได้รับตลอดระยะเวลาที่ผู้ประกันตนไม่ได้ทำงาน เนื่องจากเหตุสุดวิสัยที่นายจ้างรับรอง หรือนายจ้างไม่ให้ทำงาน เนื่องจากมีเหตุสุดวิสัย ทำให้ไม่สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติ แต่ทั้งนี้ไม่เกิน 90 วัน อีกกรณีคือตามข้อ 3 วรรคสอง กำหนดให้ในกรณีหน่วยงานภาครัฐมีคำสั่งให้นายจ้างหยุดประกอบกิจการเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนที่ไม่ได้รับค่าจ้างมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานตามมาตรา 79/1 ในอัตรา 62% ของค่าจ้างรายวัน โดยให้ได้รับตลอดระยะเวลาที่นายจ้างหยุดประกอบกิจการตามคำสั่ง แต่ทั้งนี้ไม่เกิน 90 วัน