นายกเหล่ากาชาดกาญจนบุรี กับหลายหน่วยงานเร่งให้ความช่วยเหลือครอบครัวเด็กที่อาศัยอยู่กับคุณตาป่วยเป็นอัมพฤกษ์ พบเด็กๆ 7 คนช่วยกันร้อยมาลัยขายรายได้วันละไม่ถึง 100 บาท หลังข่าวแพร่สะพัดเรื่องราวชีวิตสุดรันทด ของเด็กชาย-หญิงจำนวน 7 คน อายุตั้งแต่ 2 ขวบไปจนถึง 13 ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับคุณตา วัย 55 ปี ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ไม่สามารถทำงานอะไรได้ แต่ละวันต้องอาศัยเงินจากการรับจ้างร้อยมาลัยของพี่สาวคนโตอายุ 13 ปีเป็นค่าใช้จ่ายดูแลครอบครัว
ล่าสุด! นางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยนางสาวกิตติยา จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ คณะเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี นายสมชาย ฟักทอง นายกอบต.แก่งเสี้ยน และคณะผู้แทนจากอำเภอเมืองกาญจนบุรี พัฒนาสังคมความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี
ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือครอบครัวของเด็กๆ ทั้ง 7 คน โดยได้นำข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องนุ่งห่ม เครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับครอบครัวของเด็กทั้ง 7 คน
ด้านเด็กหญิงรัญชิดา รอดทุกข์ อายุ13ปี พี่สาวคนโต ซึ่งทำหน้าที่ในการดูแลคุณตา และน้องๆ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า "ทุกวันนี้อาศัยอยู่กับคุณตา ซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และน้องๆรวม 7 คน โดยมีคุณป้าคอยดูแล รายได้จากที่เคยได้จากการทำงานเป็น รปภ.ของคุณตา และคุณป้าที่ทำงานเป็นพนักงานอยู่ในตลาดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ก็ขาดหายไป
เนื่องจากทุกวันนี้คุณตาป่วยเป็นอัมพฤกษ์ไม่สามารถเดินเหิน หรือทำงานอะไรได้ ส่วนคุณป้าที่ทำงานที่ตลาดก็ต้องหยุดงาน เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รายได้ของครอบครัวทุกวันนี้ นอกจากที่ทางพ่อแม่ซึ่งไปทำงานก่อสร้างอยู่ที่ต่างจังหวัด จะส่งมาให้ทุกๆ เดือน เดือนละ 1,000 บาทแล้ว ก็จะได้จากการรับจ้างร้อยพวงมาลัยที่ได้ค่าจ้าง จำนวน 25 บาทต่อมาลัย 100 พวง"
ด้านนางสาวปิยะณัฐ สุปัญโญ ซึ่งเป็นป้าของเด็กทั้ง 7 คน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า "ทุกวันนี้ บ้านที่เด็กทั้ง 7 คนอาศัยอยู่ ก็ได้มาจากการที่พ่อแม่ของเด็กไปกู้ร้านขายอุปกรณ์การก่อสร้างมาสร้าง ทุกวันนี้ยังต้องแบกรับภาระใช้เงินกู้ค่าอุปกรณ์การก่อสร้างรวมถึงผ่อนชำระค่าที่ดิน ภบท. ที่ซื้อต่อมาจากคนรู้จัก เพื่อใช้สร้างบ้านเป็นที่อยู่อาศัยให้กับเด็กทั้ง 7 คน ซึ่งหลังจากที่ทางสื่อมวลชนได้มีการนำเสนอข่าวครอบครัวนี้ออกไป ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี ได้เข้ามาทำเรื่อง เพื่อจะจัดหาเงินสงเคราะห์ ช่วยเหลือเด็กในครอบครัวยากจน ให้กับเด็กทั้ง 7 คน รวมถึงประสานองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน เพื่อ ทำเรื่องขอเบี้ยคนพิการให้กับคุณตา ของเด็กทั้ง 7 คนด้วย คาดว่าน่าจะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กทั้ง 7 คนน่าจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน"
ล่าสุด! นางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยนางสาวกิตติยา จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ คณะเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี นายสมชาย ฟักทอง นายกอบต.แก่งเสี้ยน และคณะผู้แทนจากอำเภอเมืองกาญจนบุรี พัฒนาสังคมความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี
ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือครอบครัวของเด็กๆ ทั้ง 7 คน โดยได้นำข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องนุ่งห่ม เครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับครอบครัวของเด็กทั้ง 7 คน
ด้านเด็กหญิงรัญชิดา รอดทุกข์ อายุ13ปี พี่สาวคนโต ซึ่งทำหน้าที่ในการดูแลคุณตา และน้องๆ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า "ทุกวันนี้อาศัยอยู่กับคุณตา ซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และน้องๆรวม 7 คน โดยมีคุณป้าคอยดูแล รายได้จากที่เคยได้จากการทำงานเป็น รปภ.ของคุณตา และคุณป้าที่ทำงานเป็นพนักงานอยู่ในตลาดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ก็ขาดหายไป
เนื่องจากทุกวันนี้คุณตาป่วยเป็นอัมพฤกษ์ไม่สามารถเดินเหิน หรือทำงานอะไรได้ ส่วนคุณป้าที่ทำงานที่ตลาดก็ต้องหยุดงาน เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รายได้ของครอบครัวทุกวันนี้ นอกจากที่ทางพ่อแม่ซึ่งไปทำงานก่อสร้างอยู่ที่ต่างจังหวัด จะส่งมาให้ทุกๆ เดือน เดือนละ 1,000 บาทแล้ว ก็จะได้จากการรับจ้างร้อยพวงมาลัยที่ได้ค่าจ้าง จำนวน 25 บาทต่อมาลัย 100 พวง"
ด้านนางสาวปิยะณัฐ สุปัญโญ ซึ่งเป็นป้าของเด็กทั้ง 7 คน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า "ทุกวันนี้ บ้านที่เด็กทั้ง 7 คนอาศัยอยู่ ก็ได้มาจากการที่พ่อแม่ของเด็กไปกู้ร้านขายอุปกรณ์การก่อสร้างมาสร้าง ทุกวันนี้ยังต้องแบกรับภาระใช้เงินกู้ค่าอุปกรณ์การก่อสร้างรวมถึงผ่อนชำระค่าที่ดิน ภบท. ที่ซื้อต่อมาจากคนรู้จัก เพื่อใช้สร้างบ้านเป็นที่อยู่อาศัยให้กับเด็กทั้ง 7 คน ซึ่งหลังจากที่ทางสื่อมวลชนได้มีการนำเสนอข่าวครอบครัวนี้ออกไป ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี ได้เข้ามาทำเรื่อง เพื่อจะจัดหาเงินสงเคราะห์ ช่วยเหลือเด็กในครอบครัวยากจน ให้กับเด็กทั้ง 7 คน รวมถึงประสานองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน เพื่อ ทำเรื่องขอเบี้ยคนพิการให้กับคุณตา ของเด็กทั้ง 7 คนด้วย คาดว่าน่าจะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กทั้ง 7 คนน่าจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน"