ผบ.ทหารสูงสุด นำเหล่าทัพ ตรวจเยี่ยมฝึกประจำปีกองทัพเรือ 2560 ผลึกกำลัง 4 เหล่าทัพ ขนยุทโธปกรณ์ -เชื่อมต่อระบบ เต็มรูปแบบครั้งแรก หวัง 7 ปี เรือดำน้ำโผล่ร่วมภารกิจ
เมื่อวันที่ 2 พ.ค.บนเรือหลวงจักรีนฤเบศร บริเวณอ่าวไทยตอนบน พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมด้วย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญขาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาตรวจเยี่ยมการฝึกกองทัพเรือประจำปี2560 โดยมี พล.ร.อ.พลเดช เจริญพูล รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการฝึกกองทัพเรือ ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งมีการจัดขบเรือและยิงสลุต 19 นัด
พล.อ.สุรพงษ์ ให้โอวาทกำลังพลตอนหนึ่งว่าการฝึกกองทัพเรือประจำปี2560 เป็นการฝึกที่มีความสำคัญของกองทัพเรือในการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่างๆและการปฏิบัติการร่วมระหว่างกองทัพเรือกับหน่วยต่างๆตลอดจนถึงกองทัพบก กองทัพอากาศและ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นการบูรนาการ ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้กำลังพลได้รับความรู้ ความชำนาญทั้งการปฏิบัติงานในหน้าที่ตามความรับผิดชอบและเข้าใจถึงการประสานการปฏิบัติร่วมกันส่งผลให้เกิดความพร้อม ที่เป็นพื้นฐานสำคัญของการฝึกร่วมของกองทัพไทย ที่สอดคล้องการเตรียมกำลังและการใช้กำลังตามแผนป้องกันประเทศเพื่อเผชิญสถานการวิกฤติ ความท้าทาย ทุกรูปแบบเป็นอย่างดี ขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ที่เสียสละทุ่มเท ร่วมมือร่วมใจอย่างเต็มกำลังความสามารถเกิดผลสัมฤทธิ์การฝึก และขอชื่อนชมผู้บังคับบัญชา กำลังพล ผู้เข้าร่วมการฝึกทุกคน ที่ทำให้การฝึกภาคสนาม ภาคทะเล และการสาธิตการปฏิบัติการในครั้งนี้น่าประทับใจและขอเป็นกำลังใจกับทุกคนที่ดำรงมาตราฐานนี้ไว้เพื่อเกิดความเชื่อมั่นศรัทธาเกิดแก่ประชาชน
หลังจากนั้น พล.อ.สุรพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า การฝึกประจำปีของกองทัพเรือ มีการวางแผนมาตั้งแต่ต้นปี และมาสิ้นสุดการฝึดขนาดใหญ่ในช่วงเดือน พ.ค.นี้ โดยการฝึกในวันนี้เป็นการฝึกภาคทะเล จากนั้นเป็นการฝึกทางบก การฝึกด้วยกระสุนจริง ทั้งนี้การฝึกในปีนี้มีความพิเศษกว่าปีที่ผ่านมาเนื้องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อยากให้มีการฝึกระหว่างเหล่าทัพให้มากขึ้น
พล.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ในปีนี้ทางกองทัพเรือ เชิญ กองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาปรับแผนการฝึกมาร่วมกันและเป็นปีแรกที่นำยุทโธปกรณ์เหล่าทัพมาฝึกร่วมกัน และเป็นการจัดกำลังการฝึกที่สมบูรณ์
"การปฏิบัติการร่วมเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเทคโนโลยีมีความซับซ้อนมากขึ้น การทำงานในปัจจุบันต้องมีความรู้ความเข้าใจในเหล่าทัพต่างๆร่วมกันเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้ประสานสอดคล้องกับอุปกรณ์ที่มีอยู่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และมีทั้งการฝึกปฏิบัติการการรบตามแบบและการฝึกอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และในปีนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมบูรณ์แบบ ถือเป็นตัวอย่างการฝึกที่มามาตรฐานค่อนข้างสูงและเป็นตัวอย่างที่ดีในอนาคต" พล.อ.สุรพงษ์ กล่าว
พล.อ สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ในการฝึกทุกครั้ง เมื่อจบการฝึกแล้วจะมีการทบทวนบทเรียนที่เป็นประโยชน์ ข้อบกพร้องต้องแก้ไข เรามีกระบวนการศึกษาเรื่องเหล่านี้อย่างเป็นระบบ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมโยงระหว่างเหล่าทัพ เรามีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องใน 10 ปีที่ผ่าน โดยเฉพาะเรือของกองทัพเรือเชื่อมโยงกับอากาศยานกองทัพอากาศ ทำให้ยุทโธปกรณ์เชื่อมโยง ใช้งานเป็นประโยชน์ รวมถึงการฝึกความชำนาญผู้ใช้อาวุธ การฝึกในลักษณะนี้มีความจำเป็น
พล.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ในอนาคตหากมีเรือดำน้ำ ในเรื่องการฝึกเหล่านี้ ซึ่งทุกๆปี ทุกเหล่าทัพฝึกอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ โดยฝึกในประเทศ เช่น ในส่วนกองทัพบก มีการฝึกระดับ หมู่ ตอน หมวด เรื่อยๆจนถึงระดับกองพันและจบด้วยการฝึกร่วมทุกเหล่าทัพเข้าด้วยกัน ซึ่งกองทัพไทยจะจัดการฝึกในช่วง 2 เดือนข้างหน้าอีกครั้ง ดังนั่นการฝึกมีทุกปี เพราะมีการหมุนเวียนกำลังพลที่เกี่ยวข้อง ต้องฝึกให้มีความเชี่ยวชาญ มีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องหลักการ เครื่องมือต่างๆ ดังนั้นเมื่อมียุทโธปกรณ์ใหม่ๆเข้ามาต้องฝึกเช่นกัน ต่อไปเมื่อเรือดำน้ำมาถึงอีก 7 ปีข้างหน้า ลักษณะการฝึกในแบบครั้งนี้ จะมีเรือดำน้ำมาเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฝึกกองทัพเรือประจำปี 2560 เป็นการฝึกที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของกองทัพเรือ เป็นการบูรณาการการฝึกภายในกองทัพเรือด้วยการนำขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางเรือในสาขาต่าง การปฏิบัติและการสนับสนุนของกรมในส่วนบัญชาการ ส่วนยุทธบริการ ส่วนศึกษา ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันมาทำการฝึกภายใต้สถานการณ์เดียสกันและใช้ทรัพยากรร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฝึกครั้งนี้เป็นการฝึกปีที่สองตามวงรอบ เป็นการจัดแนวทางตามการจัดการฝึกใหม่และเริ่มดำเนินการเป็นครั้งแรก โดยใช้สถานการฝึกต่อเนื่องจากการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2559 มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบกระบวนการวางแผนทางทหาร การอำนวยการยุทธ ขีดความสามารถตามสาขาปฏิบัติการของหน่วย ทำการฝึกในสถานการณ์ความขัดแย้งระดับกลางถึงระดับสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า การฝึกภาคสนามและภาคทะเลในช่วง พ.ค.นี้ เป็นการฝึกสนธิกำลังระหว่างหน่วยทำการฝึกตามขีดความสามารถการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่างๆทั้งระดับยุทธการ ยุทธวิธี การฝึกควบคุมบังคับบัญชาและอำนวยการยุทธของหน่วยปฏิบัติการ โดยมีการฝึกสำคัญประกอบด้วย การฝึกยุทธวิธีร่วมกองทัพเรือ การฝึกปฏิบัติการร่วมระหว่างกำลังทางเรือและอากาศยาน การฝึกป้องกันพื้นที่ของทัพเรือภาค การฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธีของหน่วยต่อสู้อากาศยานรักษาฝั่งประจำพื้นที่ การฝึกปฏิบัติการยุทธสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก และส่งผ่านกำลังทางบก ร่วมทั้งการฝึกสนธิกำลังดำเนินการยุทธด้วยกระสุนจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการฝึกภาคสนามภาคทะเล มีการจัดกำลังมากที่สุดในประวัติศาสตร์การฝึกกองทัพเรือ โดยมีเรือรบกว่า 38 ลำ อากาศยาน 16 เครื่อง เรือรบ เรดาห์ 50 คัน ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน 40 แท่นยิงกำลังพลกว่า 5,000 นาย และหน่วยสนับสนุนการฝึกจำนวนมาก ทั้งนี้กองทัพบก ได้ปรับแผนการฝึกของกองพลทหารราบที่2 รักษาพระองค์ โดยจัดกำลัง 2 กองร้อยทหารราบ รถเกราะล้อยาง 17 คัน รถถัง 4 คันมาร่วมฝึก ขณะที่กองทัพอากาศปรับแผนการทดสอบการใช้กำลังกองทัพอากาศประจำปี 2560 ตามแผนเฉลิมอากาศ จัดเครื่องบิน กริพเพน 4 เครื่อง ซาร์บ จำนวน 1 เครื่อง เอฟ 16 จำนวน 8 เครื่อง ส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สนับสนุนเรือตรวจการ 1 ลำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตามการจัดการฝึกในห้วงใกล้เคียงกับการจัดกำลังในการปฏิบัติราชกานอื่น ประกอบด้วย การเข้าร่วมงานสวนสนามทางเนือนานาชาติและนิทัศการทางเรือ IMDEX ASIA 2017 ที่สิงคโปร์ การฝึกผสม CARAT 2017 แบยพหุภาคีครั้งแรกระหว่างกองทัพเรือกับสหรัฐอเมริกา กองทัพเรือสิงคโปร์ ระหว่างเดินทางไปสิงคโปร์ การฝึกผสม GUARDIAN SEA 2017 กับเรือดำน้ำสหรัฐอเมริกา ในฝั่งทะเลอันดามัน และการฝึกผสม PASSEX ระหว่างกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรือออสเตรียเลีย ถือเป็นการบูรณาการจัดกำลังใช้งบประมาณที่คุ้มค่า
