ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์ว่า คนไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศอินโดนีเซียทั้ง 76 คนดังกล่าวมีอยู่ 52 คน ที่มีไข้สูง ซึ่งจะต้องตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ เมื่อตรวจเบื้องต้นเสร็จแล้วได้แยกไปกักตัวตามแต่ละจังหวัด ส่วนอีก 24 คนที่ไม่ได้เดินทางมาด้วยนั้น เนื่องจากไม่ผ่านการคัดกรอง ขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตดูแลอยู่ โดยให้อยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในอินโดนีเซีย โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ กลุ่มเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้จัดทำผลการคัดกรองผู้ที่เดินทางกลับจากอินโดนีเซียระบุว่า พบผู้มีอาการ 52 คน ซึ่งตรงกับที่ พล.ต.ปราโมทย์ ให้สัมภาษณ์ และตรวจพบเชื้อทั้งสิ้น 42 คน แยกตามรายจังหวัดได้ดังนี้ (1) จ.สงขลา 22 คน ส่งไปกักตัวที่สนามกีฬาเมืองหลักภาคใต้ หรือสนามกีฬาพรุค้างคาว ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ เป็นชาว จ.สงขลา 20 คน กรุงเทพฯ 1 คน และเชียงราย 1 คน ปรากฏว่า มีอาการ 11 คน ตรวจพบเชื้อ 10 คน (2) จ.นราธิวาส 7 คน ส่งไปคัดกรองและกักตัวที่ โรงเรียนแสงธรรม ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ นราธิวาส มีอาการ 5 คน ตรวจพบเชื้อ 2 คน (3) จ.ปัตตานี 14 คน ส่งไปคัดกรองที่สนามกีฬา อบจ.ปัตตานี แล้วให้อำเภอรับตัวไปกักตัว ณ สถานที่ที่จัดไว้ของแต่ละอำเภอ มีอาการ 8 คน ตรวจพบเชื้อ 7 คน (4) จ.ยะลา 7 คน ส่งไปกักตัวที่ศูนย์พัฒนาการสาธารณสุขชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา มีอาการ 7 คน ตรวจพบเชื้อทั้ง 7 คน (5) จ.สตูล 26 คน ส่งไปกักตัวที่วิทยาลัยราชภัฏสงขลาวิทยาเขตสตูล อ.ละงู จ.สตูล มีอาการ 21 คน ตรวจพบเชื้อ 16 คน นอกจากนี้ ยังมีลูกเรือของเที่ยวบินนี้อีก 35 คน ที่ต้องกักตัวเช่นกัน โดยนำไปกักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ แต่ไม่มีใครมีอาการและตรวจไม่พบเชื้อ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ จ.สตูลยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้แต่คนเดียว แต่เมื่อมีกลุ่มดังกล่าวกลับมาจะทำให้ จ.สตูลมีจำนวนผู้ป่วยพุ่งพรวดในคราวเดียวถึง 16 คน โดยผลการคัดกรองนี้จะมีการแถลงอย่างเป็นทางการในวันนี้