เด็กดื้อฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวส์ขอนแก่น 72 ราย ผู้ว่าฯ สั่งบังคับใช้กฎหมายเต็มที่ จับส่งฟ้องศาลเอาผิดทันที พร้อมระบุ อาการผู้ป่วยติดโควิด-19 รายที่ 4 ดีขึ้นมาก คาด 3 วันกลับบ้านได้
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 เม.ย.2563 ที่ศาลากลาง จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น มอบหน้ากากอนามัยแบบผ้า,แอลกอฮอลล์,และอุปกรณ์ป้องกัน ในนามของชมรมแม่บ้านมหาดไทย และเหล่ากาชาด จ.ขอนแก่น สำหรับการส่งมอบให้กับสถานพินิจและคุ่มครองเด็กและเยาวชน,เรือนจำกลาง อ.พล และ ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนขอนแก่น สำหรับการนำไปส่งมอบให้กับผู้ที่ถูกควบคุมตัวและผู้ที่ถูกคุมขังตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ขณะเดียวกัน นายประกิต ทองแท่งไทย รองประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแกน พร้อมด้วย นายประสิทธิ์ ทองแท่งไทย ส.อบจ.ขอนแก่น ได้มอบการสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ให้กับ รพ.ขอนแก่น และ รพ.ศรีนครินทร์ โรงพยาบาลละ 100,000 บาทอีกด้วย
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดยังคงขอความร่วมมือให้ทุกคนปฎิบัติตรมคำประกาศเคอร์ฟิวส์ ตาม พรก.ฉุกเฉินอย่างเข้มงวด ซึ่งขณะนี้ขอนแกน มีผู้ที่ถูกจับกุมจากการฝ่าฝืนคำสั่งแล้ว 72 ราย ซึ่งคณะทำงานได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและส่งฟ้องต่อศาลฯเพื่อพิจารณาโทษแล้วโดยทั้งหมด ดังนั้นเวลานี้ทุกคนต้องเอาใจใส่และปฎิบัติตามคำสั่งของทางการอย่างเคร่งครัดและเข้มงวด และที่สำคัญคือการอ่านให้ละเอียดหากไม่เข้าใจหรือมีข้อสงสัยสามารถประสานงานตรงมาที่ ศูนย์อำนวยการฯ ที่ศาลากลางจังหวัดหรือที่ว่าการอำเภอได้ทันที
“ หากจะต้องเดินทางในช่วงเวลาที่ทางการไม่อนุญาตก็ขอให้มีการจัดเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย เพราะหากเจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบก็ต้องแสดงเอกสารหลักฐานและให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด ผิดก็ว่าไปตามความผิด เพราะวันนี้ทุกคนต้องแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวมในภาพรวมด้วยเพื่อที่จะหยุดยั้งและยับยั้งสถานการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ให้ได้โดยเร็ว”
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 4 ของ จ.ขอนแก่น ที่เป็นหญิง อายุ 70 ปี นั้น จากการตรวจสอบอาการล่าสุดวันนี้ทีมแพทย์สรุปว่ามีอาการที่ดีขึ้นและดีขึ้นตามลำดับอย่างมาก สามารถหายใจด้วยตัวเองได้ มีออกซิเจนในเลือดสูง แต่ยังคงมีอาการปอดบวมเล็กน้อย ซึ่งก็ดีขึ้นจากช่วงที่รับตัวมาทำการรักษาตามขั้นตอนของการรักษาโรคมาตามลำดับ ทั้งนี้หากอาการยังคงสัญญาณไปในทางที่ดีเช่นนี้ ทีมแพทย์คาดการณ์ว่าไม่น่าจะเกิน 3 วัน อาการก็จะหายขาดและพิจาณาให้กลับบ้านได้ ขณะที่การสอบสวนโรคตามเส้นทางของผู้ป่วยรายนี้นั้นทุกคนมารายงานตัวกับทางเจ้าหน้าที่หมดแล้ว มีการตรวจตามขั้นตอนและมีการกักกันโรค 14 วัน ซึ่งไม่พบมีผู้ใดติดเชื้อหรือป่วยด้วยไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดยังคงขอความร่วมมือให้ทุกคนปฎิบัติตรมคำประกาศเคอร์ฟิวส์ ตาม พรก.ฉุกเฉินอย่างเข้มงวด ซึ่งขณะนี้ขอนแกน มีผู้ที่ถูกจับกุมจากการฝ่าฝืนคำสั่งแล้ว 72 ราย ซึ่งคณะทำงานได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและส่งฟ้องต่อศาลฯเพื่อพิจารณาโทษแล้วโดยทั้งหมด ดังนั้นเวลานี้ทุกคนต้องเอาใจใส่และปฎิบัติตามคำสั่งของทางการอย่างเคร่งครัดและเข้มงวด และที่สำคัญคือการอ่านให้ละเอียดหากไม่เข้าใจหรือมีข้อสงสัยสามารถประสานงานตรงมาที่ ศูนย์อำนวยการฯ ที่ศาลากลางจังหวัดหรือที่ว่าการอำเภอได้ทันที
“ หากจะต้องเดินทางในช่วงเวลาที่ทางการไม่อนุญาตก็ขอให้มีการจัดเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย เพราะหากเจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบก็ต้องแสดงเอกสารหลักฐานและให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด ผิดก็ว่าไปตามความผิด เพราะวันนี้ทุกคนต้องแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวมในภาพรวมด้วยเพื่อที่จะหยุดยั้งและยับยั้งสถานการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ให้ได้โดยเร็ว”
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 4 ของ จ.ขอนแก่น ที่เป็นหญิง อายุ 70 ปี นั้น จากการตรวจสอบอาการล่าสุดวันนี้ทีมแพทย์สรุปว่ามีอาการที่ดีขึ้นและดีขึ้นตามลำดับอย่างมาก สามารถหายใจด้วยตัวเองได้ มีออกซิเจนในเลือดสูง แต่ยังคงมีอาการปอดบวมเล็กน้อย ซึ่งก็ดีขึ้นจากช่วงที่รับตัวมาทำการรักษาตามขั้นตอนของการรักษาโรคมาตามลำดับ ทั้งนี้หากอาการยังคงสัญญาณไปในทางที่ดีเช่นนี้ ทีมแพทย์คาดการณ์ว่าไม่น่าจะเกิน 3 วัน อาการก็จะหายขาดและพิจาณาให้กลับบ้านได้ ขณะที่การสอบสวนโรคตามเส้นทางของผู้ป่วยรายนี้นั้นทุกคนมารายงานตัวกับทางเจ้าหน้าที่หมดแล้ว มีการตรวจตามขั้นตอนและมีการกักกันโรค 14 วัน ซึ่งไม่พบมีผู้ใดติดเชื้อหรือป่วยด้วยไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด