ทรงสร้างประโยชน์สุขสู่ปวงประชา
เสกสรร สิทธาคม /เรียบเรียง/อลงกรณ์ รัตตะเวทินมทร.ธัญบุรี /ข้อมูล
เปิดโครงการคุรุราชัน ‘พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน’
มทร.ธัญบุรีให้ครูและพสกนิกรร่วมสืบสานน้อมนำเป็นต้นแบบ(1)
"...ถ้าครูไม่ห่วงประโยชน์ที่ควรจะห่วง หันไปห่วงอำนาจ ห่วงตำแหน่ง ห่วงสิทธิ์และห่วงรายได้กันมากเข้าๆแล้ว จะเอาจิตเอาใจที่ไหนมาห่วงความรู้ ความดี ความเจริญของเด็ก ความห่วงในสิ่งเหล่านั้นก็จะค่อยๆบั่นทอนทำลายความเป็นครูไปจนหมดสิ้น จะไม่มีอะไรเหลือไว้พอที่ตัวเองจะภาคภูมิใจ หรือผูกใจใครไว้ได้ ความเป็นครูก็จะไม่มีค่าเหลืออยู่ให้เป็นที่เคารพบูชาอีกต่อไป..."
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระราชทานแก่ครูอาวุโส ในโอกาสเข้าเฝ้าฯวันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2521
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2553 ถวายพระราชสมัญญา "พระผู้ทรงเป็นครูของแผ่นดิน" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2554 และเพื่อความเป็นสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลแก่พสกนิกรชาวไทยสืบไปตลอดกาลนาน
พระผู้ทรงเป็นครูฯการศึกษาในระบบ
พระราชกรณียกิจในส่วนที่เกี่ยวกับการศึกษาในระบบโรงเรียนนั้น เริ่มจากในพ.ศ. 2489 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่9ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งโรงเรียนจิตรลดาขึ้นสำหรับพระราชโอรสพระราชธิดา บุตรข้าราชบริพารในพระราชวัง ตลอดจนเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้ร่วมเรียนด้วยและเมื่อพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรและหน่วยปฏิบัติการทหาร ตำรวจตามบริเวณชายแดนทุรกันดารอยู่เนืองๆ ทำให้ทรงทราบถึงปัญหาการขาดแคลนที่เรียนของเด็กและเยาวชน อันเนื่องมาจากการให้บริการของรัฐไม่ทั่วถึง และมีปัญหาเรื่องความแตกแยกในอุดมการณ์ทางการเมือง ทำให้เยาวชนบางส่วนขาดโอกาสทางการศึกษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9ได้มีพระราชดำริให้ทหารช่วยก่อสร้างโรงเรียนเพื่อให้ทหารมีส่วนช่วยเหลือด้านการศึกษาตามโอกาสอันควรให้แก่ประชาชน โดยทรงมอบหมายให้แม่ทัพภาคเป็นแกนนำในการก่อสร้างโรงเรียนในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ และพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สนับสนุนการก่อสร้างโรงเรียน โรงเรียนดังกล่าวพระราชทานนามว่า "โรงเรียนร่มเกล้า"
นอกจากนี้พระองค์ยังได้พระราชทานพระราชทรัพย์เพื่อร่วมสร้างโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสำหรับชาวไทยภูเขาที่อาศัยอยู่ในดินแดนทุรกันดารไกลการคมนาคม มีชื่อเรียกว่า "โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์"และโรงเรียนอื่นๆอีกเป็นจำนวนมากที่ตั้งขึ้นตามพระราชดำริ
โรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริ
โรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริและอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นโรงเรียนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์เพื่อให้เป็นสถานศึกษาสำหรับบุตรหลานข้าราชบริพารและแก่เยาวชนทั่วไป โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ช่วยเหลือ ทรงอุปถัมภ์หรือทรงมีพระราชดำรัสแนะนำ ทั้งยังได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียน พระราชทานพระบรมราโชวาทเพื่อสนับสนุนและทรงเป็นกำลังใจแก่ครูและนักเรียนเป็นประจำมีจำนวน 104 โรง
โรงเรียนจิตรลดา กลุ่มโรงเรียนราชวินิต โรงเรียนสงเคราะห์เด็กยากจนในพระบรมราชูปถัมภ์ กลุ่มโรงเรียนร่มเกล้า โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ โรงเรียนวังไกลกังวล โรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์มีโรงเรียนที่จัดตั้งตามพระราชดำริและอยู่ในความดูแลของมูลนิธิหรือองค์กรต่างๆได้แก่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์
โรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัในวโรกาสต่างๆเช่น โรงเรียนรัชดาภิเษก จำนวน 10 โรงเรียน โรงเรียนนวมินทราชูทิศ 5 โรงเรียน โรงเรียนรัชมังคลาภิเษก จำนวน 33 โรงเรียน โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย เป็นโรงเรียนที่พระราชทานนาม โดยต่อท้ายด้วยชื่อจังหวัดมี 9 โรงเรียน
พระผู้ทรงเป็นครูฯ "การศึกษานอกระบบ"
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักรราช 2489 นั้น สภาพบ้านเมืองและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยยังอยู่ในสภาพล้าหลัง ประชาชนส่วนใหญ่ยังอัตคัดขัดสนในทุกด้าน ด้วยความที่ทรงห่วงใยในความทุกข์ยากของอาณาประชาราษฎร์ ทรงตัดสินพระราชหฤทัยที่จะเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎร โดยเฉพาะในพื้นที่ประชาชนยากจน ห่างไกลและทุรกันดารเสียก่อน
การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในระยะต้นรัชกาลระหว่างพ.ศ. 2494-2496 มีลักษณะเป็นการส่วนพระองค์ โดยทรงเยี่ยมราษฎรเพื่อทรงไต่ถามถึงความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของราษฎรอย่างใกล้ชิด
ต่อมาการเสด็จฯไปทรงเยี่ยมเยียนพสกนิกรทั่วทุกภูมิภาคเปรียบประดุจดังการสร้าง "พระคลังข้อมูลด้านการพัฒนา"ด้วยพระองค์เอง เพราะทรงทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนนานาประการที่มวลพสกนิกรของพระองค์ประสบอยู่ จนมิอาจช่วยเหลือตนเองได้
สำหรับการศึกษาของประชาชนชาวไทยที่อยู่นอกระบบนอกโรงเรียน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นความสำคัญของการศึกษาสำหรับประชาชนที่อยู่ในชนบทเป็นอย่างมาก
ทรงริเริ่มตั้ง "ศาลารวมใจ"ตามหมู่บ้านชนบทเพื่อให้ประชาชนได้ใช้เป็นที่อ่านหนังสือ โดยพระราชทานหนังสือประเภทต่างๆแก่ห้องสมุด "ศาลารวมใจ"นอกจากนั้นมีพระราชดำริจัดทำโครงการ "พระดาบส"เมื่อพ.ศ. 2514


