เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 เม.ย.63 ที่ สภ.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.นพเก้า โสมนัส รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เรียกประชุมชุดสืบสวนร่วม บก.สส.ภ.4 ,กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่นและ ชุดสืบสวน สภ.บ้านเป็ด เพื่อเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุฆาตกรรมนายวงศกร สีแตง อายุ 37 ปี เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อสรุปความคืบหน้าทางคดี ภายหลังจากชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อหาพยานวัตถุและสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งหาหลักฐานกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีหลังจากก่อเหตุ พ.ต.อ.นพเก้า โสมนัส รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่สอบปากคำพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุและพยานที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุแล้วมากกว่า 10 ปาก แต่ทั้งหมดยังไม่ให้การที่เป็นประโยชน์กับรูปคดี โดยเฉพาะ 3 คนแรกที่ตำรวจนำตัวมาสอบปากคำ คือนายโจ้, นายยาว และนายตูมตาม ซึ่งตามคำให้การของพยาน นายโจ้ มีเรื่องทะเลาะกับผู้ตายก่อนเกิดเหตุ ส่วนนายตูมตาม คือคนที่มาหาผู้ตาย อยู่บ้านที่เกิดเหตุและพบว่าผู้ตายนั่งกินข้าวอยู่คนเดียว ก่อนที่จะกลับไป ขณะที่นายยาว คือคนที่มาพบผู้ตายหลังเกิดเหตุ โดยพบว่าผู้ตายนอนคว่ำหน้าอยู่ แล้วมาพลิกร่างก่อนจะพบเป็นศพ จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทั้งหมดยังให้การที่ไม่เป็นประโยชน์กับรูปคดี แต่เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดและจะนำตัวส่งฟ้องศาลในวันพรุ่งนี้ "แนวทางการสืบสวนพบว่าในช่วงเวลาเกิดเหตุชาวบ้านได้ยินเสียปืนดังขึ้น แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ คาดว่า คนที่ก่อเหตุน่าจะเป็นคนที่สนิทสมกับผู้ตายไปมาหาสู่กันประจำ อาจจะเป็นคนในหมู่บ้านหรือผู้ที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และจากการลงพื้นที่ก็พบว่ามีผู้ต้องสงสัยอีก 2 ราย ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้กันและมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด ตำรวจจึงได้นำตัวมาสอบปากคำตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา แต่ก็ยังปฏิเสธว่าไม่มีส่วนกับการก่อเหตุในครั้งนี้ ส่วนประเด็นสังหาร คาดเกิดจากการทะเลาะมาก่อนหน้านี้และก่อเหตุซึ่งหน้า หรืออาจจะมาจากเรื่องยาเสพติด ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมหาตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด" ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่วัดป่าอรัญญวาสี ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเหล่านาดี ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลและในเวลาประมาณ 15.00 น. วันนี้จะมีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพ นางวันนี กองเมิ้ง 55 ปี น้าสาวของผู้ตาย บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้ปั่นจักรยานกลับมาที่บ้าน และร้องห่มร้องไห้ บอกกับตัวเองว่า เอามีดไปไล่ฟันคนมาแต่พี่ยาวมาห้ามเอาไว้และดึงมีดออก ถ้าเกิดอะไรขึ้น ขอให้น้ารู้ไว้ว่าผมไม่ผิด ซึ่งตนเองก็ปลอบใจหลานและบอกว่า จะทำอะไรก็คิดดีดี ขอให้คิดดีทำดีก็พอ " ตนเองพูดเพียงแค่นี้เนื่องจากทราบนิสัยของหลานว่า ยิ่งพูดเหมือนยิ่งทำให้หลานรู้สึกโมโหขึ้นไปอีก หลังจากนั้นหลานก็ออกจากบ้านไปกระทั่งพบเป็นศพตายอยู่ที่เถียงนา ซึ่งก่อนหน้านี้หลานมีประวัติเคยเสพยาเสพติดจนถูกตำรวจจับและก็ได้ประกันตัวออกมา โดยหลานบอกว่าจะกลับตัวกลับใจ และไปหาทำงานรับเหมากับเพื่อน กระทั่งออกจากเพื่อนมาได้ประมาณ 1 เดือน และมารับจ้างเฝ้าที่นาของญาติซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ เพราะไม่อยากกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก พร้อมกันนี้ยังเคยเล่าให้ฟังว่าเอาชื่อของตัวเองไปแอบอ้างในเรื่องยาเสพติดซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าแอบอ้างแบบไหน เพราะไม่อยากยุ่ง และหลังเกิดเหตุก็รู้สึกเสียใจ จะดีจะชั่วก็หลานตัวเองเพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กเพราะพ่อแม่ของโฟล์คแยกทางกัน แม่ก็เสียชีวิต พ่อก็เป็นอัมพาตย์ ตัวเองไม่มีลูกไม่มีเมีย แต่ต้องมาตายอย่างน่าสลดแบบนี้ ก็ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวคนก่อเหตุมารับโทตามกฎหมายให้ได้"