วันที่ 3 เมษายน 2563 ที่ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ร่วมประชุมผ่านระบบประชุมทางไกลทางจอภาพ (Video conference) ครั้งที่ 1/2563 โดยมี สมช. ในฐานะสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ สล.คปต. เป็นหน่วยดำเนินการ พร้อมด้วย ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ในฐานะกรรมการ คปต. ส่วนหน้า หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมประชุมผ่านระบบประชุมทางไกลทางจอภาพ สถานการณ์ด้านการข่าวพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และแนวโน้มสถานการณ์ (2) การขับเคลื่อนแผนบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2562-2565 และ (3) การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการด้านการศึกษาของนักศึกษาไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการตามมติ คปต. และข้อสั่งการประธาน คปต.ที่ผ่านมาในเรื่อง (1) การจัดระเบียบการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (2) การดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดระเบียบชายแดน ปีงบประมาณ พ.ศ. 25633 (3) การทบทวนและจัดทำแผนเสริมสร้างประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครประจำพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2563-2565 และ (4) แนวทางขับเคลื่อนภารกิจของกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยพิจารณาเรื่องสำคัญและมีมติเห็นชอบ รวม 5 เรื่องได้แก่ (1) แนวทางการพัฒนามาตรการ ในการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (2) การดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแนวทางของภาครัฐต่อองค์การระหว่างประเทศ (IGOs) และองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ (3) โครงการอาชีวศึกษาประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ (4) การดำเนินนโยบาย การบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้ง (5) การโอนหรือเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 2019) พลเอก ประวิตร กล่วเน้นย้ำความสำคัญในการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นเครื่องมือดำเนินงานร่วมกันของทุกหน่วยงานและมีกลไกติดตามผลอย่างต่อเนื่อง จึงย้ำผู้บริหารทุกหน่วยงานติดตามประเมินผลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่ต้องเปิดการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมทั้งองค์กร ภาคประชาชน จึงขอให้เน้นงานสร้างความเข้าใจกับทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการบิดเบือนข้อมูลและป้องกันความสับสนของภาคส่วนต่างๆ รวมทั้ง เน้นย้ำทุกหน่วยงานสนับสนุนการป้องกัน ควบคุม แก้ไขปัญหา และบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของโรค COVID-19 ในพื้นที่ จชต. สมช. ในฐานะ สล.คปต. ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่สนับสนุนความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา จชต. ที่เกิดผลเป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และจะเป็นพลังร่วมสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนต่อไป