มรว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงานเปิดเผยว่า ได้ผลักดันมาตรการช่วยผู้ประกันตน ผู้ใช้แรงงานจากสถานการณ์ภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดต่อผู้ประกันตน ผู้ใช้แรงงาน กระทรวงแรงงานจึงผลักดันให้มีการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลมีมติคณะรัฐมนตรีรวม 2 ครั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2563 และ 31 มีนาคม 2563 โดยสรุปมาตรการทั้งหมดได้ดังนี้           1.ลดอัตราเงินสมทบนายจ้างเหลือร้อยละ 4 ผู้ประกันตนมาตรา 33 เหลือร้อยละ 1 และผู้ประกันตนมาตรา 39 เหลือ 86 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน (มีนาคม–พฤษภาคม 2563)           2.ขยายระยะเวลานำส่งเงินสมทบ ของนายจ้าง และ ผู้ประกันตนมาตรา 33,39 สำหรับงวดเดือนมีนาคม – พฤษภาคมออกไปอีก 3 เดือน ค่าจ้างเดือนมีนาคม 2563 ให้นำส่งภายใน 15 กรกฎาคม 2563 ค่าจ้างเดือนเมษายน 2563 ให้นำส่งภายใน 15 สิงหาคม 2563 ค่าจ้างเดือนพฤษภาคม 2563 ให้นำส่งภายใน 15 กันยายน 2563           3.เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย กรณีผู้ประกันตนไม่ได้ทำงาน หรือนายจ้างไม่ให้ทำงานกักตัว 14 วัน เนื่องจากสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 และกรณีหน่วยงานภาครัฐมีคำสั่งให้นายจ้างหยุดประกอบกิจการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตรายให้ได้รับเงินว่างงานร้อยละ 62 ของค่าจ้างรายวันไม่เกิน 90 วัน           4.เพิ่มเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีว่างงาน ให้ผู้ประกันตนที่ลาออกให้รับเงินกรณีว่างงานร้อยละ 45 ของค่าจ้างไม่เกิน 90 วัน และผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้างรับเงินกรณีว่างงานร้อยละ 70 ของค่าจ้าง ไม่เกิน 200 วัน ทั้งสองกรณีนั้นบังคับใช้ 2 ปี           สำหรับมาตราตรการที่กล่าวมานั้นเป็นมาตรการเบื้องต้น ที่เร่งให้การช่วยเหลือและให้มีผลใช้บังคับโดยเร็ว แต่กระทรวงแรงงานโดยสำนักงานประกันสังคมยังคงเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์เพื่อหาทางช่วยเหลือผู้ประกันตน ผู้ใช้แรงงานอย่างต่อเนื่องต่อไป