กทม.ประชุมสถานการณ์ล่าสุด พบแนวโน้มผู้ติดเชื้อลดต่อเนื่อง เท่ากับที่ผ่านมาทำถูกทาง แต่ยังไม่วางใจด้วยตัวเลขน่าจะลดลงได้กว่านี้ มอบหมายรพ.ในสังกัดสำรวจโรงแรมในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อจับคู่เป็นที่พักฟื้นชั่วคราวรองรับลดแออัดในรพ. เผยช่วงโควิดระบาด มีขยะหน้ากากฯกว่า 1.4 ตัน/วัน มีระบบกำจัดขยะติดเชื้ออันตรายโดยเฉพาะ พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯกทม. ในฐานะประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 16/2563 โดย ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์ภาพรวมของโรคทั้งประเทศและในพื้นที่กทม. ซึ่งแนวโน้มผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่กทม.มีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่ามาตรการที่กรุงเทพมหานครและชาวกรุงเทพฯ ร่วมกันปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และดำเนินมาถูกทิศทางแล้ว อย่างไรก็ดี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังวางใจไม่ได้ เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อควรลดลงมากกว่านี้ จากนั้น ที่ประชุมมอบหมายให้โรงพยาบาลสังกัดกทม. สำรวจโรงแรมในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อจับคู่เป็นสถานที่พักสำหรับผู้ป่วยที่อาการไม่มาก หรือสถานที่รองรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่พ้นขีดอันตราย เพื่อลดความแออัดของสถานพยาบาลในปัจจุบัน รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหามาตรการเยียวยาสำหรับบุคลากรอาสาสมัครลานกีฬา บ้านหนังสือ ห้องสมุดกรุงเทพมหานคร และมาตรการสำหรับชาวกรุงเทพฯ เรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ได้หารือถึงเรื่องการจัดเก็บมูลฝอยติดเชื้อโดยเฉพาะหน้ากากอนามัยใช้แล้ว ซึ่งปัจจุบันการเก็บขนและทำลายมูลฝอยติดเชื้อรวมถึงหน้ากากอนามัยใช้แล้ว กทม.ได้มอบหมายให้บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด เป็นผู้กำจัดทำลาย โดยปัจจุบันปริมาณมูลฝอยติดเชื้อที่กรุงเทพมหานคร โดยบริษัทกรุงเทพธนาคม จากัด จัดเก็บจากสถานพยาบาล ทั้งในส่วนโรงพยาบาลรัฐ โรงพยายาบาลเอกชน ศูนย์บริการสาธารณสุข และคลินิกกว่า 4,000 แห่ง รวมประมาณ 40 ตัน/วัน โดยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรค COVID-19 มีปริมาณมูลฝอยประเภทหน้ากากอนามัย และวัสดุปนเปื้อนต่างๆ รวมประมาณ 1.4 ตัน/วัน ทั้งนี้ที่ประชุม ได้มอบหมายสำนักสิ่งแวดล้อมประสานบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เพิ่มจุดจัดเก็บมูลฝอยติดเชื้อ ณ โรงแรมที่โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครจับคู่เป็นสถานที่พักสำหรับผู้ป่วยที่อาการไม่มาก หรือสถานที่รองรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่พ้นขีดอันตราย รวมทั้งให้ขอความเห็นชอบผู้ว่าฯกทม.งดเว้นค่าธรรมเนียมการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อสถานที่ดังกล่าวด้วย สำหรับแนวทางจัดการหน้ากากอนามัยจากประชาชน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้จัดถังรองรับหน้ากากอนามัยพร้อมติดป้ายข้อความ “สาหรับทิ้งหน้ากากอนามัยเท่านั้น” และจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมตั้งวางถังรองรับหน้ากากอนามัยจากประชาชน ประกอบด้วย สำนักงานเขต 50 แห่ง ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร 11 แห่ง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) บริเวณหน้าห้องตรวจโรค สานักอนามัย ชั้น 1 ฝั่งถนนดินสอ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) บริเวณจุดคัดกรอง 4 จุด ประกอบด้วย อาคาร 1 (อาคารสานักการโยธา) บริเวณทางเข้าด้านธนาคารกรุงไทย อาคาร 2 (อาคารสานักการระบายน้ำ) บริเวณทางเข้าด้านห้องละหมาด อาคารธานีนพรัตน์ 2 จุด (ด้านฝั่งวิภาวดี และด้านฝั่งวงเวียนน้าพุ) และอาคารไอราวัตพัฒนา บริเวณทางเข้าชั้น B1 ใกล้ลานน้ำพุ พร้อมทั้งแนะนำขั้นตอนวิธีการทิ้งหน้ากากอนามัยให้ประชาชนทราบ ทั้งนี้การกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ จะกำจัดด้วยเตาเผามูลฝอยติดเชื้อ โดยมูลฝอยติดเชื้อจะถูกป้อนเข้าสู่ห้องเผาที่ 1 ซึ่งจะทำการหมุนระหว่างการเผาเพื่อให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ซึ่งจะควบคุมอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 760 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นจะเข้าสู่ห้องเผาที่ 2 เพื่อกำจัดควันและกลิ่นให้สมบูรณ์ ซึ่งจะควบคุมอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 1,000 องศาเซลเซียส ขั้นตอนต่อจากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนระบบบำบัดมลพิษทางอากาศต่อไป