ต้องการถึง 90% ถึงจะลดผู้ป่วยลงได้ ขณะพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังกระจายตัวสูงในกทม. เป็นกลุ่มวัยทำงาน-หนุ่มสาว 20-50 ปีเพิ่มขึ้น ทั้งผู้ป่วยใหม่เกือบครึ่งกลับจากตปท. ห่วงกลุ่มออกนอกบ้านไปรวมตัวกันยังมีถึง 50% เฝ้าระวังบริการเดลิเวอรี่ต้องร่วมมือปฏิบัติตามสธ.อย่างเข้มข้น เผยเตรียมพร้อมกว่า 2 พันเตียงในกทม.รองรับผู้ป่วย พร้อมจัดสรรบุคลากร สถานที่รับผู้ป่วยหนักในอนาคต เมื่อวันที่ 31 มี.ค.63 นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า ปัจจุบันประชาชนให้ความร่วมมือกับมาตรการการเว้นระยะห่าง โซเชียล ดิสแทนซิ่ง มากขึ้น 70% แต่เราต้องการเพิ่มขึ้นถึง 90% เพื่อที่จะลดจำนวนผู้ป่วยลง ทั้งนี้ สังเกตได้ว่ายังมีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่กระจายอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครสูงอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเนื่องจากมีการตรวจคัดกรองผู้ป่วยในพื้นที่กทม.เข้นข้นขึ้น ส่วนในต่างจังหวัดได้รับความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย ทหาร ตำรวจในการตรวจเช็กประชาชนทำให้สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม กลุ่มอายุตั้งแต่ 20-50 ปี ยังมีจำนวนเพิ่มขึ้น ส่วนอายุมากกว่า 50 ปี และมีโรคประจำตัว หากได้รับเชื้อในปริมาณมากมีโอกาสเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ยังพบผู้ป่วยรายใหม่เกือบ 50% ยังมาจากการเดินทางกลับจากต่างประเทศด้วย และยังมีการออกนอกเคหสถานไปทำกิจกรรมทางสังคม 50% ทั้งนี้ กลุ่มที่กระทรวงสาธารณสุขต้องเฝ้าระวังอีกกลุ่ม คือ กลุ่มบริการส่งอาหารตามบ้าน ที่ต้องขอความร่วมมือและปฏิบัติตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มข้น ร้านอาหาร หรือผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม เช่น ไม่ยืนออกันหน้าร้านเป็นจำนวนมาก ต้องเว้นระยะห่างในการยืนรอ ทำความสะอาดร้านอย่างสม่ำเสมอ ในส่วนของการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขนั้น ได้เตรียมเตียงในพื้นที่กทม.กว่า 2,000 เตียง เครื่องช่วยหายใจ 300 เครื่อง ซึ่งขณะนี้กำลังรักษาอยู่ประมาณ 700 คน ส่วนต่างจังหวัดมี 120,000 เตียง เครื่องช่วยหายใจกว่า 1,000 เครื่อง ซึ่งขณะนี้เตรียมจัดสรรทรัพยากร และเตรียมขยายเตียง ห้องความดันลบ และเครื่องช่วยหายใจ เพื่อรองรับผู้ป่วยหนักในอนาคต